ผู้เขียน หัวข้อ: 5 เรื่องหลังเกม ผี เปิดบ้านสอย นักบุญ 2-0  (อ่าน 1647 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Hugball

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7054
  • เพศ: ชาย
    • www.hugball.net


โดยShinji Man Kagawa , 20 AUG 2016

5. ช่วงกอบโกย



​เป็นการออกสตาร์ทที่ดีสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ยุคใหม่ (อีกครั้ง) หลังเก็บชัยได้ใน 2 นัดแรกพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2016/17

ที่น่าสนใจคือ โชเซ มูรินโญ เวลาเริ่มต้นได้ดีแล้วมักจะแรงไม่ตก นั่นเป็นสัญญาณดีสำหรับปีศาจแดงในขณะนี้ที่พวกเขาจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่

มันมีความเป็นไปได้ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะปิดจ๊อบเดือน สิงหาคม ด้วยการที่ไม่แพ้ใครเลย และยึดตำแหน่งจ่าฝูง พรีเมียร์ ลีก ก่อนที่จะทำศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ในเดือนถัดไป

4. สิ่งที่แตกต่าง



​มีการเปรียบเทียบกันระหว่าง เกมล่าสุด กับ นัดเปิดฤดูกาล ที่พวกเขาบุกไปชนะ บอร์นมัธ 3-1 มันเป็นความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับนัดนี้ ซึ่งพวกเขาเล่นได้ค่อนข้างช้าในเกมแรก และยังติดจังหวะแปะบอลออกข้างอยู่ในบางครั้ง

ยุคของ หลุยส์ ฟาน กัล หากย้อนกลับไปดูสถิติการครองบอลของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเห็นได้ว่าพวกเขาเป็นทีมที่มีเปอร์เซ็นต์การครองบอลเหนือกว่าคู่แข่งแทบจะตลอด แต่ผลกลับออกมาไม่เป็นที่ต้องการ

จุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ พวกเขาไม่ได้มีเปอร์เซ็นต์การครองบอลเยอะกว่าคู่แข่งแบบขาดลอยในหนนี้

โดยหลังจบเกมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน เจ้าบ้านปีศาจแดง เปอร์เซ็นต์การครองบอลอยู่ที่ 43% ขณะที่ทีมเยือนนักบุญ อยู่ที่ 57%

นั่นคือความแตกต่าง และผลการแข่งขันที่ออกมาก็เป็นไปตามที่เร้ด เดวิลส์ ต้องการ
 
3. ป๊อกบา ผู้สร้างความแตกต่าง



แม้อาจต้องรอดูกันยาว ๆ แต่เกมแรกที่เขาเปิดตัวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อคืนวันศุกร์ ที่ผ่านมา เขาก็ปล่อยของออกมาทันที

เขาสร้างความแตกต่างออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน เขาทำให้แดนกลางของปีศาจแดง รวมถึงทีมแมนฯ ยูไนเต็ด มีชีวิตชีวาขึ้นมามาก เซนส์บอลของเขายอดเยี่ยม ฉลาด เสียบอลยาก สามารถพาบอลไปข้างหน้าได้ ซึ่งนี่คือ มิดฟิลด์ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ขาดหายไปในระยะหลัง

อนึ่ง ปอล ป๊อกบา เป็นนักเตะที่เลี้ยงบอลได้เก่ง สถิติบอกว่า เขาเลี้ยงบอลสำเร็จไป 102 ครั้ง เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาในยูนิฟอร์มของ ยูเวนตุส

และเมื่อเทียบกับ 10 นักเตะที่เลี้ยงบอลสำเร็จมากสุดในพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2015/16 เขาอยู่อันดับที่ 4
 
2. ซลาตัน ไม่ได้มาเล่น ๆ



​การย้ายมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบไร้ค่าตัว ของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ในวัย 34 ปี เป็นที่พูดถึงกันอย่างมากว่า เขาจะไหวกับลีกที่มีอัตราความโรคจิตสูงอย่าง พรีเมียร์ ลีก หรือไม่?

ซลาตัน เคยบอกว่า ‘’เขายังหนุ่มอยู่ และอายุก็เป็นเพียงแค่ตัวเลข’’ หลายคนบอกว่า เขาแก่แล้ว ไม่ไหวแน่นอน และดึงมาเพื่อเอามาขายก็แค่นั้น

สิ่งที่หลายคนเคยตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวเขา.. ในตอนนี้เขากำลังแสดงให้เห็นในสนาม
 
1. ''นี่แหละคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด''



​ช้าก่อน…!! ไม่ได้เป็นการโม้แต่อย่างใด แต่ ‘This is Manchester united’ คือประโยคที่ผู้บรรยายภาษาอังกฤษที่พากย์ประจำให้กับทาง พรีเมียร์ ลีก พูดออกมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งหลังที่ทีม ปีศาจแดง ทำเกมรุกเข้าใส่ เซาธ์แฮมป์ตัน และสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลได้เป็นอย่างดี

ในยุคของ หลุยส์ ฟาน กัล แมนฯ ยูไนเต็ด เคยมีเกมรุกที่น่าตื่นเต้น (แต่น้อยมากกกก!) และมักจะออกอาการผีเข้าผีออกอยู่เสมอ

อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูกันต่อไปยาว ๆ สำหรับ ปีศาจแดงยุคของ โชเซ มูรินโญ แต่มันเป็นสัญญาณที่ดีในขณะนี้
 
​ช้าก่อน…!! ไม่ได้เป็นการโม้แต่อย่างใด แต่ ‘This is Manchester united’ คือประโยคที่ผู้บรรยายภาษาอังกฤษที่พากย์ประจำให้กับทาง พรีเมียร์ ลีก พูดออกมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งหลังที่ทีม ปีศาจแดง ทำเกมรุกเข้าใส่ เซาธ์แฮมป์ตัน และสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลได้เป็นอย่างดี

ในยุคของ หลุยส์ ฟาน กัล แมนฯ ยูไนเต็ด เคยมีเกมรุกที่น่าตื่นเต้น (แต่น้อยมากกกก!) และมักจะออกอาการผีเข้าผีออกอยู่เสมอ

อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูกันต่อไปยาว ๆ สำหรับ ปีศาจแดงยุคของ โชเซ มูรินโญ แต่มันเป็นสัญญาณที่ดีในขณะนี้



 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Sitemap 1 2 3 4 5 6