HUGBALL Board

HUGBALL Board => Motor Zone => ข้อความที่เริ่มโดย: Hugball ที่ 21-09-22, 08:00:16 am

หัวข้อ: ใต้ฝากระโปรงหน้ารถ...เปิดดูสักนิด หนึ่งในเทคนิคดูแลรถคันโปรดง่าย ๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Hugball ที่ 21-09-22, 08:00:16 am
(https://image.hugball.net/Pic/Webboard/1663721951_1.jpg)

ใต้ฝากระโปรงหน้ารถ...เปิดดูสักนิด หนึ่งในเทคนิคดูแลรถคันโปรดง่าย ๆ

ฝากระโปรงหน้ารถกับตำแหน่งของเครื่องยนต์ของรถทั่ว ๆ ไป หลาย ๆ ท่านที่ใช้งานรถยนต์ อาจจะไม่เคยมีโอกาสได้เปิดฝากระโปรงหน้ารถขึ้นมาดูภายในห้องเครื่องยนต์เลย โดยเฉพาะใครที่ใช้รถใหม่ ๆ เรียกได้ว่าน้อยคนนักที่จะเปิดฝากระโปรงหน้ารถขึ้นมาดู ในวันนี้ทีมงานจึงอยากขอมาแนะนำหนึ่งในเทคนิคง่าย ๆ ในการดูแลรถคันโปรดของคุณ กับหลากหลายจุดที่ควรสังเกตภายในห้องเครื่องยนต์

(https://www.autodeft.com/_uploads/images/thum%20bonnet.JPG)

ก่อนที่จะไปไล่ดูภายในห้องเครื่องยนต์กันนั้น เราก็จะต้องมาเปิดฝากระโปรงหน้ารถกันก่อน ซึ่งสำหรับรถยนต์ค่ายญี่ปุ่นโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีคันโยกอยู่ที่บริเวณใต้คอนโซลด้านขวาฝั่งผู้ขับขี่ใกล้กับบานพับประตู โดยสังเกตง่าย ๆ จากสัญลักษณ์รูปรถที่เปิดฝากระโปรงอยู่ แนะนำว่าไม่ควรเปิดขณะรถจอดไม่สนิท ซึ่งเมื่อมีการโยกคันโยกเปิดด้านในรถแล้ว เราก็จะต้องเอามือสอดเข้าไปในบริเวณฝากระโปรงที่เปิดขึ้นเล็กน้อยเพื่อโยกคันโยกและดันฝากระโปรงขึ้น ซึ่งในรถใหม่ปัจจุบันหลาย ๆ รุ่นก็ได้ติดตั้งโช๊คค้ำมาให้ เราเพียงดันขึ้นไม่ต้องใช้ก้านค้ำมาค้ำเองเหมือนแต่ก่อน แต่ในบางรุ่นนั้นก็ยังต้องมีการใช้ก้านค้ำอยู่

แต่ในรถหลาย ๆ รุ่น อย่างฝั่งยุโรปคันโยกเปิดฝากระโปรงหน้าอาจมีตำแหน่งในฝั่งผู้โดยสารตอนหน้า เมื่อโยกคันโยกด้านในแล้ว ก็สามารถที่จะเปิดฝากระโปรงหน้าขึ้นได้ทันที โดยที่ไม่ต้องโยกตัวล็อคฝากระโปรงใด ๆ อีก ดังนั้นเราควรต้องศึกษาการเปิดฝากระโปรงหน้ารถของเราเอาไว้

(https://www.autodeft.com/_uploads/images/IMG_3971.JPG)

หลังจากที่เราเปิดฝากระโปรงหน้ารถขึ้นเรียบร้อย สิ่งที่เราจะพบได้อย่างชัดเจนก็คือเครื่องยนต์ที่อยู่บริเวณตรงกลาง บวกกับสายไฟต่าง ๆ ต่อพ่วงเชื่อมกันเต็มไปหมด มีแบตเตอรี่ มีกระปุกจุดใส่ของเหลวหลาย ๆ จุด ซึ่งเราไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ว่าชื้นส่วนทั้งหมดคืออะไร แต่ให้ใช้การสังเกตความไม่ปกติที่อาจเกิดขึ้นได้

เครื่องยนต์ ที่จะถูกวางอยู่ที่บริเวณกลางห้องเครื่อง ในบางรุ่นอาจมาพร้อมกับฝาครอบที่มีโลโก้รถยี่ห้อนั้น ๆ อยู่เพื่อความสวยงาม และในบางรุ่นอาจไม่มีฝาครอบใด ๆ อยู่เลย สิ่งที่เราควรสังเกตก็คือตามรอยต่อต่าง ๆ มีความผิดปกติ เช่น มีคราบน้ำมัน หรือสายไฟชำรุดหรือไม่ เพราะเมื่อเราพบความผิดปกติได้เร็ว แน่นอนว่าเราสามารถที่จะแก้ไข และลดการเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

อีกเรื่องที่ควรสังเกตก็คือมีเศษต่าง ๆ ที่ไม่ควรอยู่ใต้ฝากระโปรงหรือไม่ เพราะนั้นอาจนำมาซึ่งเจ้าหนูจอมกัดที่อาจเข้ามาทำที่พักในห้องเครื่องยนต์ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนบวกกับการที่ต้องจอดรถนาน ๆ ไม่มีการขยับและความร้อนจัด

แบตเตอรี่ อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่เราสามารถตรวจเช็คเบื้องต้นได้เอง นอกจากการประมาณระยะเวลาและอาการในการสตาร์ทรถที่ยากแล้ว ที่ตัวของแบตเตอรี่ในปัจจุบัน ผู้ผลิตแบตเตอรี่ก็ได้ใส่อุปกรณ์ในการดูสถานะแบตเตอรี่เอาไว้แล้วเบื้องต้น นอกจากการตรวจเช็คด้วยเครื่องมือวัดภายนอก

(https://www.autodeft.com/_uploads/images/IMG_3968.JPG)

กระปุกใส่ของเหลวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นก้านวัดน้ำมันเครื่องที่คุณจะต้องชักก้านขึ้นมาเช็ดให้คราบน้ำมันออกให้หมด ก่อนที่จะใส่ลงไปที่เดิมและดึงขึ้นมาเช็คระดับน้ำมันเครื่อง คล้ายกับก้านเช็คน้ำมันเกียร์ นอกจากนี้ที่คุณสามารถตรวจเช็คได้เลยด้วยตาเปล่าก็คือ ระดับน้ำหม้อน้ำที่จะสังเกตได้จากระดับ MAX หรือ MIN ที่จะมีบอกไว้ ซึ่งไม่ควรที่จะต่ำกว่าระดับ MIN นั้นเอง หากถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าจุดไหนคือของเหลวอะไร ที่ส่วนของฝาปิดจุดนั้น ๆ จะมีข้อความหรือสัญลักษณ์กำกับเอาไว้

(https://www.autodeft.com/_uploads/images/IMG_3970.JPG)

(https://www.autodeft.com/_uploads/images/IMG_3972.JPG)

และอาจรวมไปถึงฝาปิดต่าง ๆ ในห้องเครื่องยนต์ว่าปิดสนิทอยู่หรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น ฝาน้ำมันเครื่อง ที่คุณอาจเพิ่งไปใช้บริการถ่ายน้ำมันเครื่องมาและช่างอาจเผลอปิดฝาไม่สนิท เมื่อขับใช้งานไปคุณอาจพบว่ามีควันที่ลอยพุ่งออกมาจากใต้ฝากระโปรงเกิดขึ้นได้นั้นเอง

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดสังเกตหลัก ๆ ง่าย ๆ เบื้องต้น ที่เราสามารถสังเกตและตรวจเช็คได้ด้วยตัวเอง แม้จะไม่มีความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ในเชิงลึก เพียงแค่การสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้น ก็สามารถช่วยให้ลดความเสี่ยงจากสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจนำไปสู่ความเสียหายขึ้นได้ในอนาคต