กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 10
21
Sexy Room / (รูปภาพ เซ็กซี่ 18+) • ILada •
« กระทู้ล่าสุด โดย Hugball เมื่อ 04-08-25, 11:25:28 pm »












Model : ILada Sikua
22
Sexy Room / (รูปภาพ เซ็กซี่ 18+) • ptrk.kk •
« กระทู้ล่าสุด โดย Hugball เมื่อ 04-08-25, 11:22:25 pm »










Model : ptrk.kk
23


Porsche เตรียมเปิดตัว Cayenne EV ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งอาจกลายเป็นรถ SUV ไฟฟ้าที่มีดีไซน์สร้างความถกเถียงมากที่สุดของแบรนด์ โดยหากดูจากทิศทางของ Macan EV ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ Cayenne รุ่นไฟฟ้าก็มีแนวโน้มจะถูกปรับดีไซน์ในทิศทางเดียวกัน ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูล้ำสมัยแต่ก็อาจไม่ถูกใจแฟนคลับสายอนุรักษ์นิยม



Cayenne EV รุ่นใหม่จะขายควบคู่ไปกับรุ่นเครื่องยนต์สันดาป (ICE) ที่มีอยู่ โดยจะมีการออกแบบภายนอกที่แตกต่างชัดเจน จากภาพเรนเดอร์ซึ่งอ้างอิงจากรถทดสอบที่มีการพรางตัว พบว่า Cayenne EV จะมาพร้อมไฟหน้าทรงใหม่ ช่องดักลมสามเหลี่ยมใต้ไฟหน้า และกระจังหน้าขนาดใหญ่พร้อมแผงแนวตั้งที่ปรับได้ ส่วนด้านท้ายจะใช้ไฟท้าย LED แถบยาวพาดเต็มความกว้าง ตามสไตล์ Porsche รุ่นใหม่ ๆ ซึ่งดีไซน์ด้านหลังนี้อาจเป็นจุดที่แบ่งความคิดเห็นมากที่สุด

ภายในห้องโดยสาร Cayenne EV เน้นความล้ำสมัยด้วยหน้าจอทั้งหมด 4 ตำแหน่ง ประกอบด้วยหน้าจอโค้งสำหรับแสดงมาตรวัด (แบบไม่สัมผัส), หน้าจอสัมผัสกลาง, หน้าจอฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า ทั้งหมดรวมอยู่ในแผงกระจกเดียวกันให้ความรู้สึกเป็นหน้าจอกว้างพิเศษ และอีกหนึ่งหน้าจอบริเวณคอนโซลล่างสำหรับควบคุมระบบปรับอากาศและเบาะที่นั่ง นอกจากนี้ยังมีปุ่มควบคุมจริงเพียงไม่กี่ปุ่มเท่านั้น เช่น ตัวปรับอุณหภูมิและแป้นหมุนสำหรับควบคุมเสียง



ในด้านสมรรถนะ Cayenne EV จะใช้แพลตฟอร์ม PPE แบบ 800 โวลต์รุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้น ซึ่งอาจให้กำลังแรงกว่ารุ่น Cayenne Turbo E-Hybrid ที่มีแรงม้า 730 แรงม้าในปัจจุบัน โดยยังรองรับน้ำหนักลากจูงสูงสุดถึง 3,500 กิโลกรัมอีกด้วย

Cayenne EV คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในปี 2025 นี้ และเริ่มจำหน่ายทั่วโลกในเวลาไม่นานหลังจากนั้น

ที่มา Carscoops
24
Motor Zone / เปิดราคา GWM TANK 500 DIESEL ดีเซลพรีเมียมในไทย เริ่ม 1,399,000
« กระทู้ล่าสุด โดย Hugball เมื่อ 27-07-25, 09:53:54 am »


หลังจากที่มีการเผยโฉมพร้อมรายละเอียดสเปกรถใหม่ NEW GWM TANK 500 DIESEL ดีเซลไปแล้วก่อนหน้านี้ และให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับทดสอบกันไปแล้ว ล่าสุดนี้พร้อมแล้วกับการเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย กับราคาค่าตัวพิเศษเริ่ม 1,399,000 บาท 500 คันแรก



รถใหม่ GWM TANK 500 DIESEL ดีเซล ถูกวางตลาดในตำแหน่งของรถ PPV พรีเมียม ที่มากับสมรรถนะทรงพลังของเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)”



ชูไฮไลท์ประสบการณ์การขับขี่อัจฉริยะแบบครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่
1.) ความพรีเมียมตั้งแต่ภายนอกสู่ภายใน
2.) ความสบายเหนือระดับด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมาย
3.) เทคโนโลยีอัจฉริยะอันล้ำสมัย
4.) ความปลอดภัยที่อัดแน่นสร้างความมั่นใจให้ในทุกเส้นทาง

ทั้งหมดนี้เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทาง ทั้งเพื่อธุรกิจ การเดินทางกับครอบครัว หรือทริปผจญภัย



ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ ได้ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย มากับเทอร์โบแปรผัน (VGT), หัวฉีดแรงดันสูง 2,000 บาร์, ระบบ EGR อิเล็กทรอนิกส์ และเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ที่เปลี่ยนเกียร์สูงได้แม้ในความเร็วต่ำ ผลลัพธ์คือการส่งกำลังที่ลื่นไหล ตอบสนองทันใจ พร้อมให้กำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ที่มาในรอบต่ำเพียง 1,500–2,500 รอบ/นาที ขับขี่คล่องตัวทั้งในเมือง นุ่มนวลเมื่อเร่งแซง และมั่นคงบนทางไกล

มีมิติตัวถังขนาดใหญ่ กว้าง 1,934 มม. ยาว 4,886 มม. สูง 1,905 มม. และระยะฐานล้อ 2,850 มม. ในรุ่น 2.4T PRO มาพร้อมล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว จับคู่กับยาง Westlake ขนาด 265/60 R18 พร้อมยางอะไหล่ ขณะที่รุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD ล้ออัลลอยสีดำขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง Continental ขนาด 265/50 R20 และยางอะไหล่



ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีดำสุดหรู และหนัง Nappa ที่ให้สัมผัสนุ่มนวลและหรูหรา มีจอ 14.6 นิ้ว Touch screen infotainment ขนาดใหญ่ก็ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถควบคุมทุกฟังก์ชันได้อย่างง่ายดายและทันสมัย ติดตั้ง Multi-color ambient lighting ช่วยเพิ่มบรรยากาศภายในห้อง สามารถปรับเปลี่ยนสีแสงได้ตามความต้องการ ระบบเสียงระดับพรีเมียมจากลำโพง 12 ตัว พร้อมระบบ Surround sound ให้ได้สัมผัสประสบการณ์เสียงที่ลึกซึ้งและชัดเจนที่สุด พร้อมการป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกด้วยกระจกสองชั้นแบบ Double Layer Laminated Glass ที่ทำให้การเดินทางเงียบสงบไร้กังวล นอกจากนี้ ระบบ Active Noise Cancellation (ANC) ยังช่วยลดเสียงรบกวนเพิ่มเติม เพื่อให้ทุกการเดินทางเป็นประสบการณ์ที่เหนือระดับ

ในรุ่น 2.4T ULTRA และ ULTRA 4WD มากับเบาะที่นั่งที่ปรับไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง พร้อมระบบ Welcome Seat, Massage Seat และ VIP Switch ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการปรับเบาะให้เหมาะสมตามสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และระบบเบาะระบายอากาศทั้งในที่นั่งแถว 1 และแถว 2 (เฉพาะรุ่น ULTRA 4WD)



ห้องโดยสารกว้างขวางยิ่งขึ้นด้วยระยะฐานล้อที่ยาวถึง 2,850 มม. และ พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ 795 ลิตร ทำให้สามารถจัดเก็บสัมภาระได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไกลหรือท่องเที่ยว พร้อมด้วย ซันรูฟพาโนรามา ที่ช่วยเติมเต็มความโปร่งสบายให้ห้องโดยสาร นอกจากนี้ เทคโนโลยีความบันเทิงภายในรถได้รับการออกแบบให้ทันสมัยด้วยหน้าจอสัมผัสที่รองรับมัลติมีเดียได้อย่างครบครัน พร้อมระบบเสียงรอบทิศทางที่มีลำโพงถึง 12 ตำแหน่ง (รุ่น PRO 8 ตำแหน่ง)

ห้องโดยสารยังมีระบบปรับอากาศด้านหน้าแบบแยกอิสระซ้าย-ขวา และระบบปรับอากาศด้านหลัง พร้อมด้วยระบบกรองอากาศ N95 และ ระบบ ionizer ที่ช่วยฟอกอากาศและสร้างบรรยากาศที่สดชื่นภายในรถ เพิ่มความสะดวกสบายอีกระดับด้วยม่านบังแดดสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง



หน้าจอแสดงผลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และ หน้าจอสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว ที่รองรับระบบ Smart Dual Screen Interaction มี Windshield Head-Up Display ที่แสดงข้อมูลการขับขี่บนหน้ากระจกเพื่อให้การขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น มี Wireless Charging ขนาด 50 วัตต์ ที่ด้านหน้า และระบบกล้องแสดงภาพ 540 องศา (กล้อง 360 องศา และระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ)

ระบบการควบคุมรถจากทางไกลผ่านแอปพลิเคชัน GWM และระบบสั่งงานด้วยเสียง ช่วยให้การควบคุมรถง่ายและทันสมัย สำหรับรุ่น 2.4T PRO และ ULTRA มาพร้อม 3 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดประหยัด สำหรับรุ่น 2.4T ULTRA 4WD มีโหมดการขับขี่ทั้งหมด 8 โหมด ได้แก่ โหมด 2H 4H 4L โหมดพื้นหิมะ โหมดพื้นโคลน โหมดพื้นทราย โหมดพื้นหิน และโหมดผู้เชี่ยวชาญ พร้อมฟีเจอร์ออฟโรดสุดล้ำ เช่น Tank Turn ที่ช่วยให้การกลับรถในที่แคบเป็นเรื่องง่าย, Off-road Cruise Control, และ ระบบล็อกเฟืองหน้า-หลัง ให้คุณมั่นใจในทุกเส้นทาง สำหรับการจอดรถ NEW GWM TANK 500 DIESELรุ่น ULTRA และ ULTRA 4WD ยังมีระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบอีกด้วย



ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุด เอกสิทธิ์เดียวจาก GWM ที่มาพร้อม 4 จุดเด่น

แรง ประหยัด คุ้มค่า: ขุมพลัง 2.4T พร้อมเทอร์โบแปรผัน VGT และหัวฉีดแรงดันสูง 2,000 บาร์ ให้การเผาไหม้สมบูรณ์ ลดไอเสีย ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น
นิ่ง เงียบ นุ่มนวล: เทคโนโลยี NVH ลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนได้อย่างยอดเยี่ยม มีระดับเสียงในห้องเครื่องที่ idle time ต่ำกว่า 68 เดซิเบล
ตอบสนองฉับไว: กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำ ขับขี่คล่องตัวในเมือง และมั่นใจทุกเส้นทาง
ทนทาน มั่นใจ: ผ่านการทดสอบสมรรถนะกว่า 6 ล้านกิโลเมตรทั่วโลก รับประกันเครื่องยนต์นานถึง 1 ล้านกิโลเมตร หรือ 8 ปี
ด้านความปลอดภัยมาพร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขี่ระดับ L2+ ที่รวมระบบ ACC, Lane Change Assist, Forward Collision Warning, Lane Keeping Assist, และ Intelligent Cruise Assist/Traffic Jam Assist ช่วยให้การขับขี่ในเมือง, ทางด่วน, และการจราจรติดขัดเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเสริมด้วยระบบเตือนการชนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ RCTA + RCTB, MEB, กล้องรอบคัน 540 องศา, และเซนเซอร์ 12 จุด เพื่อเพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่ ด้านโครงสร้างตัวถังของ NEW GWM TANK 500 DIESEL ถูกออกแบบให้แข็งแกร่งและทนทาน สามารถทนต่อแรงยุบ แรงชน แรงบิด และแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยตัวถัง Cage-Type ผลิตจากเหล็กกล้าแรงดึงสูงพิเศษ รองรับแรงกดหลังคาได้ถึง 96.58 กิโลนิวตัน และแรงบิดสูงสุด 23,076 นิวตันเมตร พร้อมระบบปลดล็อกอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และฟีเจอร์อื่น ๆ ที่มอบความปลอดภัยแบบครบวงจร



พิเศษแตกต่างดุดันด้วย “สีดำ (Black Warrior)” ที่มีให้เลือกเฉพาะใน NEW GWM TANK 500 DIESEL รุ่น 2.4T ULTRA และรุ่น 2.4T ULTRA 4WD ความหล่อเข้ม  ลึกลับ สง่างาม และทรงพลังได้อย่างมีเอกลักษณ์ ผ่านดีไซน์ภายนอกสีดำเงาเข้มขรึม กระจังหน้าสีดำพิเศษ ผสานกับล้ออัลลอยสีดำ และห้องโดยสารภายในโทนสีดำที่สะท้อนความพรีเมียมและความดุดันในทุกมุมมอง ความโดดเด่นของสีดำ (Black Warrior)

มีตัวเลือกสีภายนอก 3 สี ได้แก่ สีขาว, สีดำ, สีเทา และรุ่นตกแต่งพิเศษ Black Warrior (เฉพาะรุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD)

NEW GWM TANK 500 DIESEL นำเสนอมาด้วย  3 รุ่นย่อย ได้แก่

ราคาพิเศษสำหรับ 500 คันแรก
- รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T PRO ราคา 1,399,000 บาท
- รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T ULTRA* ราคา 1,499,000 บาท
- รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T ULTRA 4WD* ราคา 1,599,000 บาท
(*ทั้ง ULTRA และ ULTRA 4WD มาพร้อมสีพิเศษ Black Warrior) (รุ่นตกแต่งพิเศษ Black Warrior +30,000 บาท)

ราคาจำหน่ายปกติ
- รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T PRO ราคา 1,449,000 บาท
- รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T ULTRA* ราคา 1,599,000 บาท
- รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T ULTRA 4WD* ราคา 1,699,000 บาท
(*ทั้ง ULTRA และ ULTRA 4WD มาพร้อมสีพิเศษ Black Warrior)
25


ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า Honda Prologue และ Acura ZDX จะสามารถเข้าถึงเครือข่ายสถานีชาร์จ Tesla Supercharger ทั่วอเมริกาเหนือได้แล้ว ด้วยอะแดปเตอร์ที่ผ่านการรับรองอย่างเป็นทางการจากผู้ผลิต โดยแม้ว่าทั้งสองรุ่นยังใช้พอร์ต CCS (Combined Charging System) แต่สามารถใช้งานร่วมกับมาตรฐาน NACS (North American Charging Standard) ได้ผ่านอุปกรณ์เสริมนี้ ซึ่งวางจำหน่ายในราคา 225 ดอลลาร์สหรัฐ



Honda ระบุว่าอะแดปเตอร์ดังกล่าวได้ผ่านการทดสอบด้านประสิทธิภาพและความเข้ากันได้กับรุ่น Prologue และ ZDX เพื่อให้มั่นใจถึงประสบการณ์การชาร์จที่เชื่อถือได้ พร้อมย้ำว่า หากผู้ใช้เลือกใช้อะแดปเตอร์ที่ไม่ได้รับการรับรอง อาจส่งผลต่อการรับประกันตัวรถ ทั้งนี้ อุปกรณ์ดังกล่าวมีจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย Honda และ Acura รวมถึงบนเว็บไซต์ Honda DreamShop ในราคาเดียวกัน

ในช่วงเริ่มต้น ผู้ใช้ Honda Prologue และ Acura ZDX จำเป็นต้องล็อกอินผ่านแอป Tesla เพื่อใช้สถานี Supercharger แต่ในอนาคตจะสามารถใช้งานได้ผ่านแอปพลิเคชัน HondaLink และ Acura EV โดยตรง นอกจากนี้ ระบบแผนที่ Google ที่ติดตั้งมาในรถยนต์ยังสามารถค้นหาสถานี Supercharger ใกล้เคียงได้ด้วยความสะดวก



จากข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2025 Honda มียอดขาย Prologue ในสหรัฐฯ อยู่ที่ 49,334 คัน และ Acura ZDX อีก 17,726 คัน รวมเป็นผู้ใช้ที่ได้รับผลโดยตรงจากข่าวนี้กว่า 67,000 ราย โดยทั้งสองรุ่นถูกพัฒนาร่วมกับ General Motors

ขณะเดียวกัน Honda เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่ติดตั้งพอร์ต NACS มาจากโรงงาน โดยเริ่มจากรุ่นผลิตจริงของ 0 Series ทั้งเวอร์ชันซีดานและเอสยูวี ซึ่งมีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2026 ความร่วมมือระหว่าง Honda และ Tesla ได้รับการประกาศตั้งแต่ปี 2023 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ หลายเจ้าตัดสินใจเข้าร่วมมาตรฐานเดียวกัน

ปัจจุบันเครือข่ายสถานีชาร์จของ Tesla มีมากกว่า 23,500 แห่งในสหรัฐอเมริกา และภายในปี 2030 คาดว่าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าของ Honda และ Acura จะสามารถเข้าถึงสถานีชาร์จ DC Fast Charger ได้มากถึง 100,000 จุดทั่วอเมริกาเหนือ ครอบคลุมผู้ให้บริการหลายราย

ที่มา Carscoops
26


Toyota Frontlander เอสยูวีตลาดจีนที่ถือเป็นฝาแฝดของ Corolla Cross เตรียมเปิดตัวโฉมไมเนอร์เชนจ์พร้อมการปรับดีไซน์ด้านหน้าใหม่หมดจด แม้ภายนอกโดยรวมจะยังคล้ายกับ Corolla Cross รุ่นล่าสุดที่มีขายทั่วโลก แต่เวอร์ชันจีนที่ผลิตโดย GAC Toyota กลับแตกต่างชัดเจนบริเวณกระจังหน้าและกันชน ซึ่งเปลี่ยนจากดีไซน์กระจังหน้าขนาดใหญ่แบบเดิม มาใช้แนวทางคล้ายรถไฟฟ้าด้วยช่องดักอากาศขนาดเล็ก และมีแถบพลาสติกสีเดียวกับตัวรถแทนที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของกันชน พร้อมตกแต่งด้วยแถบเงาเพิ่มความทันสมัย



ไฟหน้าแบบ LED ยังคงใกล้เคียงกับรุ่นสูงของ Corolla Cross ที่จำหน่ายในตลาดอื่น ส่วนเวอร์ชันเริ่มต้นยังใช้ไฟหน้ารุ่นเดิม ตัวถังด้านข้างยังคงเหมือนกับ Frontlander รุ่นก่อนหน้า โดยยังไม่มีภาพภายในห้องโดยสารหลุดออกมา แต่มีแนวโน้มว่าจะได้ชุดหน้าจอดิจิทัลใหม่เพื่อยกระดับความทันสมัยเช่นกัน

มิติตัวถังของ Frontlander ใหม่นี้มีความยาว 4,490 มม. กว้าง 1,825 มม. สูง 1,625 มม. และฐานล้อยาว 2,640 มม. ซึ่งเท่ากับ Corolla Cross รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ทำให้เพิ่มความยาวขึ้นจากรุ่นเดิมเล็กน้อยเพียง 5 มม. เท่านั้น

ขุมพลังยังคงมีให้เลือกทั้งแบบเบนซินล้วนและไฮบริด โดยรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ให้กำลัง 169 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT สู่ล้อหน้า ขณะที่รุ่นไฮบริดผสานเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร (156 แรงม้า) เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 111 แรงม้า และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ ternary ส่งกำลังผ่านเกียร์ E-CVT สู่ล้อหน้าเช่นกัน



Toyota ยังไม่ประกาศวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Frontlander ไมเนอร์เชนจ์ แต่มีแนวโน้มจะเปิดขายเร็ว ๆ นี้ หลังจากรุ่นปัจจุบันเริ่มมีการปรับลดราคาในจีน โดยรุ่นเครื่องยนต์เบนซินเริ่มต้นที่ 89,800 หยวน (ราว 12,500 ดอลลาร์) และรุ่นไฮบริดเริ่มต้นที่ 111,800 หยวน (ราว 15,600 ดอลลาร์)

Corolla Cross เปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 และกลายเป็นหนึ่งในรถที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของ Toyota โดยในปี 2024 มียอดขายทั่วโลกสูงถึง 859,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2023 ถึง 18% ทำให้กลายเป็นรถขายดีอันดับ 3 ของโลก แซงหน้าทั้ง Corolla ซีดานและแฮทช์แบ็ก แต่ยังตามหลัง RAV4 ที่ครองแชมป์อันดับ 1 ของโลกอยู่

ที่มา Carscoops
27
Sexy Room / (รูปภาพ เซ็กซี่ 18+) • Booku •
« กระทู้ล่าสุด โดย Hugball เมื่อ 27-07-25, 09:43:56 am »









Model : Aunchulee Kasiwech
Aunchulee Kasiwech
28
Sexy Room / (รูปภาพ เซ็กซี่ 18+) • Fuengfah •
« กระทู้ล่าสุด โดย Hugball เมื่อ 27-07-25, 09:40:35 am »









Model : Fuengfah Suweeraya
Photographer : Changnum Bigcola
29
Sexy Room / (รูปภาพ เซ็กซี่ 18+) • ฟาต๊ะ •
« กระทู้ล่าสุด โดย Hugball เมื่อ 27-07-25, 09:38:40 am »














นางแบบ : Ratiporn Sukwibool
ช่างภาพ : Psk Photott
30
Sexy Room / (รูปภาพ เซ็กซี่ 18+) • Nonglek •
« กระทู้ล่าสุด โดย Hugball เมื่อ 27-07-25, 09:34:52 am »



















นางแบบ : Sarika Rasantiya
ช่างภาพ : Psk Photott
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 10