ทำตลาดที่ญี่ปุ่นมาได้สักพัก สำหรับ Toyota Corolla ทั้งในแบบ Sedan Estate และ Hatchback ด้วยความสปอร์ต ขุมพลังที่จัดจ้านและเทคโนโลยีที่เหนือชั้นจนได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก



ล่าสุด โตโยต้า ญี่ปุ่น เปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่หรือ Model Year ให้กับ Toyota Corolla ทั้ง 3 ตัวถังหลัก โดยเพิ่มออพชั่นความปลอดภัย ติดตั้งระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM (Pedal Misapplication Mitigation) ในรุ่น Sedan กับรุ่น Estate โดยเป็นออพชั่นที่ติดตั้งผ่านทางดีลเลอร์ Toyota นอกจากนี้ในรุ่น W,B และ S มีการติดตั้งระบบฟอกอากาศ Nanoe X ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา สารก่อภูมิแพ้ ละอองเกสร ฝุ่นมลพิษ PM 2.5 ในห้องโดยสารรถ พร้อมยังเพิ่มสีใหม่สีแดง sensual red mica ในรุ่น W และ B และสีแดง Emotional Red III บาดใจคนรักความสปอร์ตในรุ่น Corolla Sport และกุญแจรีโมทสีเหลืองดีไซน์พิเศษ





Toyota Corolla MY 2021 ทั้ง 3 ตัวถังนี้ ยังคงดีไซน์เดิม หล่อสปอร์ตในสไตล์ Keen Look and Under Priority design ตังแต่กระจังหน้าแนวนอนใหม่พร้อมโลโก้เอกลักษณ์เฉพาะ ขนาบข้างด้วยไฟหน้า LED รูปตัว L และช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ มีไฟตัดมหมอกฝั่งอยู่ในชุดกันชนหน้า สีตัวถังมาแบบทูโทน โป่งล้อขนาดใหญ่ และด้านท้ายที่โฉบเฉี่ยวกว่ารุ่นเดิมและไฟท้าย Full LED เติมเต็มความโดดเด่นให้สมบูรณ์ ล้ออัลลอยลายเท่เลือกได้ทั้งขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 225/40 R18 และ 16 นิ้วพร้อมยาง 205/55 R16

พร้อมขุมพลัง เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ ยกชุดจาก Toyota C-HR ขนาด 1.2 ลิตร 8NR-FTS ให้กำลังสูงถึง 116 แรงม้า ที่ 5,200-5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 185 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด iMT (Intelligent Manual Transmission) เลือกได้ทั้งขับหน้าและขับสี่ 4WD รักษ์โลกด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid ขนาด 1.8 ลิตร 2ZR-FXE จาก Toyota Prius และ C-HR ให้กำลังสูงถึง 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิด 142 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 71 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร ทำให้ได้แรงม้ารวมถึง 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับหน้า ทั้งสองขนาดความแรงเพิ่มความมันส์ในการขับขี่ด้วยโหมดการขับขี่ 5 โหมดทั้ง "Eco", "Normal","Sports", Comfort" และ "Sports S +



เบื่องต้น Toyota Corolla MY 2021 ทั้ง 3 ตัวถัง มีราคาจำหน่ายโดยรุ่น Sedan เริ่มต้น 1,936,000 - 2,948,000 yen หรือราว 536,000 –862,000 บาท รุ่น Estate เริ่มต้น 2,013,000 - 2,997,500 yen หรือราว 588,000 – 876,000 บาท และรุ่น Sport Hatchback เริ่ม 2,169,000 - 2,841,000 yen หรือราว 634,000 – 831,000 บาท (ราคาแปลงเป็นเงินไทยทั้งหมดไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย)