ผู้เขียน หัวข้อ: รีวิว ทดลองขี่ All-New Honda Forza 350 เปลี่ยนไฟหลัง ไฟหน้า กล้าเรียกออลนิว  (อ่าน 618 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Hugball

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7080
  • เพศ: ชาย
    • www.hugball.net


รีวิว ทดลองขี่ All-New Honda Forza 350 เปลี่ยนไฟหลัง ไฟหน้า กล้าเรียกออลนิว

ถ้าเราเอ่ยถึงรถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์ขนาดกลาง รุ่นต้น ๆ ที่เราต้องนึกถึงก็คือ รถจักรยานยนต์จากค่ายปีกนกอย่าง Honda Forza อย่างแน่นอน นอกจากตัวแบรนด์เองที่มีความน่าเชื่อถืออยู่แล้ว ตัวรถเองก็ใช้งานได้ดี เหนือคู่แข่งในหลายเรื่องอยู่เหมือนกัน



ถ้าย้อนไปก่อนหน้านี้ คนไทยเริ่มรู้จัก Honda Forza กันมา ก็คงต้องเริ่มกันตั้งแต่ปี 2013 ที่เริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์ 300 โดยใช้เครื่องตัวนี้มา 2 เจนเนอเรชั่น ก่อนที่ปีที่แล้ว มีการขยับตัวเครื่องยนต์ให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิมเป็น 350 สรุปแล้วเราเริ่มเรียก All-New กับมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้มาแล้วรวม 3 ครั้ง คือครั้งแรกรุ่นโฉมแรกในปี 2013 (หรือจะเรียกว่าโซฟาก็ไม่ผิดอะไร) ถัดมากับการเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ในปี 2019 และเปลี่ยนเครื่องใหม่เป็น 350 ในปี 2021



ปีนี้ได้รับหมายเชิญไปร่วมเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ใหม่จากทางไทยฮอนด้าอีกครั้ง โดยรอบนี้ได้รับการแจ้งว่า จะมีรุ่นหนึ่งที่เป็นการเปิดตัวแบบ World Premier พร้อมกับจะได้เป็นผู้สื่อข่าวกลุ่มแรกของโลกที่จะได้ขับขี่รถรุ่นนี้ เราก็เดากันไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าจะเป็นจักรยานยนต์ตัวไหน แล้วเราก็มองข้าม Honda Forza ไปเพราะมันไม่น่าเปลี่ยนแปลงกันแบบ All-New เร็วขนาดนี้



เมื่องานเปิดตัวเริ่มต้นขึ้น ในที่สุดก็เฉลยออกมาว่า รุ่นที่เป็น All-New แบบ World Premier มันเป็น All-New Honda Forza 350 จริง ๆ ด้วย อ่า… ทีนี้ต่อมอยากรู้ก็เริ่มทำงานทันที อยากรู้เลยว่ามันจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่ทำให้รอบนี้ถูกเรียกว่าออลนิวได้ เพราะปกติแล้วโดยทั่วไป ถ้าคุณไม่เปลี่ยนโครงสร้าง, เปลี่ยนทรงของตัวรถ, เปลี่ยนเครื่องยนต์ หรือเปลี่ยนอะไรก็ตามที่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เราถึงจะเรียกว่าเป็น All-New ได้ ถ้าเปลี่ยนเฉพาะไฟ, แฟริ่ง, หน้าปัดใหม่ อันนี้เราจะเรียกกันว่า New เฉย ๆ หรือถ้าเป็นสายรถยนต์ เปลี่ยนหน้า เปลี่ยนหลังใหม่ เรายังเรียกกันว่าเป็น Facelift เลย ตราบใดที่ยังใช้โครงสร้างและเครื่องยนต์เดิม



ทีนี้เรามาดูกันว่า รอบนี้  All-New Honda Forza 350 นั้น มีการเปลี่ยนแปลงอะไรกันบ้าง เริ่มต้นกันที่ไฟหน้า จากเดิมที่ไฟหน้ามองดูแล้วจะรวมกันมาเป็นชุดเดียว รูปทรงออกไปทางแนวปีกนก แต่ของตัวใหม่ ตัวไฟจะแบ่งออกเป็น 2 ดวงแยกซ้ายขวาอย่างชัดเจน มีการลากเส้น DRL ที่ยาวมากกว่า แต่ช่องรับชมจากด้านหน้าถูกทำให้มันมีร่องที่เล็กลง ที่เหลือก้คล้ายของเดิมทั้งหมดเลย



ส่วนไฟท้าย จากเดิมที่ไฟท้ายเวลาสตาร์ทรถ จะถูกแบ่งเป็น 2 ชุดบนกับล่าง และเมื่อกดไฟเบรกแล้วมองไกล ๆ จะออกไปเป็นลายเส้นตัว X แต่ของใหม่นี้ มาเป็นรูปทรง A มีปีกอย่างชัดเจน ส่วนตัวไปทั้งคันนั้น ใช้เป็นแบบ LED ทั้งหมดเลย



ด้านข้างนั้น แฟริ่งด้านหน้ามีการปรับดีไซน์เล็กน้อย กับการเอาขอบสีเทาออก แล้วใส่เป็นสีตัวรถให้ชัดเจนไปสีเดียว ตัดสันคมของตัวการออกแบบออกไป ให้ดูเรียบร้อยมากขึ้น



หน้าปัด Meter จะมีการเปลี่ยนแปลงเฉพาะส่วนตรงกลางที่เป็นแบบ Digital เท่านั้น จากเดิมจะมีเฉพาะครึ่งบนของตัวแผงเท่านั้น ด้านล่างจะเป็นแผงไฟแจ้งข้อมูลสถานะของตัวรถ แต่รอบนี้เปลี่ยนใหม่ให้ลากยาวเต็มจากบนลงล่าง บอกข้อมูลได้เยอะมากกว่า



เอาจริง ๆ แล้ว All-New Honda Forza 350 มารอบนี้มีแบ่งรุ่นพิเศษเพิ่มเติม โดยอีกรุ่นที่ต้องเพิ่มเงินอีก 2 พันบาท ก็จะมีระบบ RoadSync ที่เรียกว่า Honda Smartphone Voice Control System (HSVCs) ความปลอดภัย...สั่งได้! ด้วยระบบสั่งการด้วยเสียงบนสมาร์ตโฟน เทคโนโลยีอัจฉริยะจากฮอนด้า เชื่อมต่อใช้งานสะดวก ผ่านแอปพลิเคชัน Honda RoadSync ควบคุมการทำงานฟังก์ชันต่าง ๆ ด้วยเสียงและกดสั่งการที่สวิตช์แฮนด์ โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน แต่เนื่องจากรุ่นที่ผมทดสอบในรอบนี้จะเป็นรุ่น Standard ราคา 179,000 บาท ก็เลยขอข้ามในการเอ่ยถึงหรือรีวิวอุปกรณ์ตัวนี้ไปนะครับ เพราะไม่ได้ใช้ เลยบอกไม่ได้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง



ส่วนที่เหลือก็ “เหมือนเดิม” ทุกอย่างครับ ทั้งเครื่องยนต์เทคโนโลยี eSP+ ที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 วาล์ว ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI 4 จังหวะ แบบซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ ลูกสูบเดี่ยวขนาด 329.6 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ รองรับการใช้เชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ระดับสูงสุดถึง E20 ใช้ระบบคลัทช์แห้งอัตโนมัติแบบแรงเหวี่ยง ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยระบบเกียร์ V-Matic แบบสายพาน [V-Belt], โช้คหน้า-หลัง, ล้อ, ยาง, ระบบเบรก, ขนาดของเบาะ, ขนาดตัวรถ, Shield ด้านหน้า ฯลฯ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เลยไม่แน่ใจว่า ทำไมรอบนี้ทางฮอนด้ากล้าเรียกรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ 2022 รุ่นนี้ในรูปแบบ All-New ได้





การทดสอบรอบนี้ เป็นการขับแบบกลุ่มโดยผู้สื่อข่าวเป็นครั้งแรกของโลก (ดูดีจัง) เริ่มต้นจากที่โรงแรม Grande Centre Point Space Pattaya วิ่งเลาะหาดพัทยาเหลือจนถึงพัทยาใต้ ก่อนจะวิ่งขึ้นเขามุ่งหข้าขึ้นไปถ่ายรูปกับ Pattaya Sign จากนั้นก็มุ่งหน้าต่อไปแถววัดเขาชีจรรย์ แล้วไปจบที่ร้าน Castello Di Bellagio Pattaya ระยะทางประมาณเกือบ 30 กิโลเมตรเท่านั้น เอาภาพโดยรวมเลยนะ ต้องบอกว่าการขับขี่ทุกอย่าง เหมือนเดิมทุกประการ เพราะการเปลี่ยนแปลงรอบนี้ไม่ได้เปลี่ยนอะไรในเชิง Performance เลย (แต่กล้าเรียกว่าออลนิว) อันไหนที่เคยดีอยู่แล้ว ทั้งอัตราเร่งที่ทันใจ, เครื่องยนต์มีอาการสั่นตัวน้อย, รถทรงตัวดี, นิ่ง, เข้าโค้งได้มันใจ, เบรกดี มี ABS ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง, นั่งขี่สบาย นั่งได้เต็มก้น (ขนาดก้นอ้วน ๆ ยังสบาย) ยิ่งเวลาหวดถนนใหญ่แบบยาว ๆ ยิ่งสบาย ลมประทะหน้าก็ยก Shield สูงขึ้นมาบังลมได้ เพราะตัวนี้ยกลูกได้มากถึง 150 มม. ไม่รู้จะอธิบายต่อยังไงดี เอาเป็นว่าถ้าคุณเคยขี่ Honda Forza 350 อยู่ ก็เป็นแบบเดิมนั่นแหล่ะครับ





รอบก่อนหลังจากที่ผมเคยเชียร์ว่า ถ้าใครยังใช้ตัวเดิมอยู่ที่เป็นเครื่อง 300 ให้เปลี่ยนได้เลยนะ เพราะคุณจะได้มาซึ่งความแรง, ความนุ่มนวลของเครื่องยนต์ที่มากขึ้น แต่รอบนี้ถ้าใครใช้ตัวที่เป็น 350 อยู่แล้ว และอยากจะย้ายขยับมาตัวใหม่นี้ ผมแนะนำว่าไม่ต้องก็ได้ครับ เพราะนอกจากงานดีไซน์แล้ว อย่างอื่นแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย เสียดายเงินเปล่า ๆ ยกเว้นแต่ว่าคุณอยากจะได้ระบบ Roadsync ที่สามารถสั่งการด้วยเสียงได้ อันนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าอยากเปลี่ยนจริง ๆ ผมว่าซัดเป็นตัวรุ่นพิเศษเลยครับ ผมว่าเจ๋งกว่าเยอะ อย่างตัว Forza Nitron Neon TH1 ที่มาพร้อม ชุดแต่ง Nitron Neon Edition ชุดแต่งพรีเมียมจากอังกฤษ ทุกเส้นสายบอกสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร เอาใจสายสปอร์ตด้วยระบบกันสะเทือนแบรนด์ Hi-end ระดับโลก รองรับการใช้งานทุกย่านความแรง มีใส่โช้คอัพหลังของ Nitron ที่มีตัว Sub-Tank ใส่เข้ามาให้ด้วย ในราคา 221,800 บาท ผมว่าตัวนี้โคตรคุ้ม ซื้อไปแล้วแทบไม่ต้องแต่งอะไรเพิ่มเลย



หรือจะเป็นตัวรุ่น Forza Yoshimura Gcraft Rising Spirit TH2 ที่มากับชุดแต่ง The Yoshimura X G’craft Rising Spirit Edition ตำนานจากญี่ปุ่น ที่ร่วมมือกับ H2C สำนักแต่งฮอนด้าที่ทั่วโลกยอมรับ สู่การปลดปล่อยสไตล์ใหม่ไม่ซ้ำทางใคร ด้วยท่อไอเสียจากสำนักแต่งสัญชาติญี่ปุ่น พร้อมทะยานสู่ความเร้าใจใหม่ที่เหนือกว่า พร้อมท่อแต่งซิ่ง ในราคา 206,900 บาท ก็ยังดูมีเหตุผลในการเปลี่ยนรถมากกว่า จ่ายเพิ่มอีกนิดแต่ได้ของแต่งชุดพิเศษ คุ้มมาก



แต่ถ้าพูดถึงคนที่ยังไม่เคยได้เป็นเจ้าของรถสกู๊ตเตอร์พิกัดเครื่องยนต์ระดับกลางอย่าง All-New Honda Forza 350 มาก่อน ก็ต้องบอกว่า รถมอเตอร์ไซค์ใหม่รุ่นนี้ก็ยังเป็นรถที่ขี่ได้สบาย คล่องตัวกว่าที่ตามมองเห็น เครื่องยนต์กำลังแรงแบบสู้คนอื่นได้ นั่งขี่สบาย ใช้งานได้ครอบคลุม คุ้มค่ากับราคา 179,000 บาทอยู่พอตัว ใครกำลังมองหาอยู่หรือกำลังจะตัดสินใจว่าเอาดีหรือไม่ ผมก็เชียร์ให้ซื้อไปใช้นะ เพราะผมเองยังอยากได้เลย ติดอยู่อย่างเดียวคือ ผอ. ที่บ้านยังไม่อนุมัติให้ซื้อก็เท่านั้นเอง (เหมือนเรื่องเล็กแต่ไม่เล็ก)




 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Sitemap 1 2 3 4 5 6