ผู้เขียน หัวข้อ: LOTUS ELETRE แรงสุด 905 แรงม้า ในราคาเริ่มต้น 5,890,000 บาท  (อ่าน 311 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Hugball

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7253
  • เพศ: ชาย
    • www.hugball.net


ค่ายรถยนต์สปอร์ตชื่อดัง Lotus ได้ทำการเปิดตัวรถใหม่ 2023 ในรูปแบบไฟฟ้า EV รุ่นแรกของค่าย LOTUS ELETRE รถสไตล์อเนกประสงค์ SUV ที่มีพลังขับเคลื่อนแรงสูงสุด 905 แรงม้า ตั้งราคาสำหรับชาวไทยเอาไว้ที่ 5,890,000 บาท



LOTUS ELETRE  สุดยอดยานยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกและรุ่นสำคัญที่สุดของโลตัส นำจิตวิญญาณของสปอร์ตคาร์รุ่นล่าสุดอย่าง Emira มาผสานกับเทคโนโลยีอากาศพลศาสตร์อันล้ำสมัยของไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้า 100% เหมาะทั้งสำหรับการขับขี่ทางไกลและการใช้งานในชีวิตประจำวัน แบตเตอรี่ขนาด 800 โวลต์ 112kWh สามารถชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็วและเต็มประสิทธิภาพ ทั้งยังมีระบบจัดการความร้อนที่ดีเยี่ยมเพื่อมอบประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุดในทุกสภาวะ รถยนต์รุ่นนี้ยังใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นรุ่นแรกของโลตัส ทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าน้ำหนักเบาและอุปกรณ์อินเวอร์เตอร์ขั้นสูง โดย Eletre รุ่นพื้นฐานมีกำลังเครื่อง 603 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.5 วินาที และวิ่งได้ระยะทาง 600 กม. ในขณะที่ Eletre R ให้กำลังสูงสุด 905 แรงม้า และวิ่งได้ระยะทาง 490 กม. โดยมีระบบชาร์จพลังงานกลับคืนในขณะเบรก ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับระดับการประจุพลังงานได้ตามต้องการ



LOTUS ELETRE ติดตั้ง Lotus Dynamic Handling Pack (ประกอบด้วย Intelligent Active Roll Control และ Active Rear Steering) แพ็กเกจชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ Carbon Pack, ยางสมรรถนะสูงรุ่น Pirelli P Zero และการเคลือบสีล้อโทนดำเงา พร้อมเพิ่มโหมดการขับขี่แบบที่ 6 คือ Track Mode สำหรับสนามแข่ง ซึ่งจากการทดสอบสมรรถนะสุดโหด ซึ่งรวมถึงที่สนาม Nürburgring ปรากฏว่า Eletre R คือเอสยูวีระบบไฟฟ้า 100% แบบสองมอเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก ณ เวลานี้ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.) ในเวลาไม่ถึง 3 วินาที ส่วนระบบชาร์จก็เร็วแรงไม่แพ้กัน โดยชาร์จไฟจาก 10-80% ในเวลาเพียง 20 นาที หรือชาร์จเพียง 5 นาทีก็สามารถวิ่งได้ไกลถึง 120 กม. (ราว 74 ไมล์) ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวที่มอบแรงฉุดได้อย่างฉับไวบวกกับประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนสี่



LOTUS ELETRE มอบประสิทธิภาพทั้งในด้านความคล่องตัว การควบคุม และความสะดวกสบาย บวกฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ระบบควบคุมป้องกันการพลิกคว่ำ และเวกเตอร์แรงบิด ระบบควบคุมโครงแชสซีรวมแบบ 6D ช่วยเพิ่มความมั่นใจถึงประสบการณ์การขับขี่แบบไดนามิก นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบกันสะเทือนอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาแบบมัลติลิงก์พร้อมสปริงลม dual-chamber และระบบหน่วงกันสะเทือนแบบอิเล็กทรอนิกส์ผันแปรเพื่อมอบการตอบสนองที่ฉับไวในขณะขับขี่ ระบบบังคับเลี้ยวกลไกไฟฟ้าและระบบบังคับเลี้ยวล้อหลังแบบแอ็กทีฟเพิ่มการควบคุมที่แม่นยำ และด้วยโหมดการขับขี่ที่แตกต่างและยาง Pirelli สมรรถนะสูง จึงทำให้นักขับสามารถปรับแต่งรูปแบบการขับขี่ได้ดังใจ ในส่วนของระบบเบรก นำเสนอตัวเลือกคาลิเปอร์หกลูกสูบและเบรกคาร์บอนเซรามิกเพิ่มเติม



รูปลักษณ์ภายนอกของ LOTUS ELETRE มอบความโดดเด่นด้วยดีไซน์ส่วนหน้าที่ให้ความรู้สึกพุ่งทะยาน ระยะฐานล้อยาว และมีชิ้นส่วนยื่นออกนอกตัวรถน้อยที่สุด เพื่อสร้างภาพลักษณ์รถสปอร์ตน้ำหนักเบาที่สมบูรณ์แบบ ชูลักษณะเด่นของการออกแบบอย่าง “การสร้างช่องเปิด” เพื่อให้เกิดการไหลเวียนของอากาศที่ยอดเยี่ยมและแรงต้านที่น้อยลง โดยองค์ประกอบต่างๆ เช่น ช่องระบายอากาศบนฝากระโปรงหน้าและซุ้มล้อยังช่วยยกระดับทั้งสมรรถนะและระยะทาง ดีไซน์ด้านหน้าดูสวยโฉบเฉี่ยวด้วยไฟ LED กระจังหน้าแบบแอ็กทีฟ และระบบเซ็นเซอร์ LIDAR ที่ถูกวางตำแหน่งอย่างประณีตเช่นเดียวกับรถรุ่นคลาสสิกของโลตัสอย่าง Emira และ Evija ส่วนโปรไฟล์ด้านข้างมีลักษณะโค้งมนตามหลักอากาศพลศาสตร์ พร้อมติดตั้งกระจกบังลมสูงและ “air blade” แบบพิเศษบนโครงสร้าง D-pillar ดีไซน์ด้านหลังสวยงามด้วยแถบไฟที่ยาวตลอดความกว้างซึ่งจะเปลี่ยนสีเพื่อระบุสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ พร้อมด้วยสปอยเลอร์หลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีรูปทรงโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และยังเป็นจุดติดตั้งเซ็นเซอร์ LIDAR อีกตัวหนึ่งด้วย



LOTUS ELETRE มีห้องโดยสารที่หรูหราล้ำสมัย มาพร้อม“ค็อกพิตระบบดิจิทัล (Digital Cockpit)” ติดตั้งชิปเซ็ต Qualcomm อันทรงพลังและระบบปฏิบัติการ Lotus Hyper OS พร้อมระบบการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบ 5G และการอัปเดตผ่าน OTA นอกจากนี้ ยังมีระบบการสั่งงานด้วยเสียงและหน้าจอ OLED ติดตั้งหลายตำแหน่งเพื่อให้สามารถใช้งานระบบนำทางขั้นสูง การชาร์จไร้สาย และคุณสมบัติด้านความปลอดภัยได้อย่างง่ายดาย ห้องโดยสารยังมีระบบเสียง KEF คุณภาพสูงที่มาพร้อม Dolby Atmos และแอปพลิเคชันเพื่อการควบคุมระยะไกล การออกแบบองค์ประกอบอื่น ๆ ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและประหยัดพลังงาน อาทิ หลังคาพาโนรามาอัจฉริยะ เป็นต้น



ห้องโดยสารภายในของ LOTUS ELETRE รถใหม่ 2023 มีการออกแบบที่นั่งคนขับให้เป็นศูนย์กลางการควบคุมพร้อมคอนโซลทรงสูง โดยใช้วัสดุเกรดพรีเมียมและนำเสนอ Option layout แบบ 4 ที่นั่ง ส่วนหลังคาพาโนรามาช่วยให้ห้องโดยสารแลดูสว่างขึ้น รวมถึงมีการนำดีไซน์รูปสามเหลี่ยมมาใช้ในองค์ประกอบต่าง ๆ ได้อย่างสวยงามล้ำสมัย ภายในยังมีฟีเจอร์สุดล้ำอีกมากมาย อาทิ ระบบชาร์จไร้สาย ที่วางแก้วแบบพับซ่อนได้ และช่องเก็บสัมภาระข้างประตูขนาดใหญ่ และเนื่องจากโลตัสกำหนดให้ความยั่งยืนเป็นกุญแจสำคัญของยานยนต์รุ่นนี้ จึงนำเสนอ Option เบาะที่นั่งทั้งแบบเส้นใย Re-Fibre ที่รีไซเคิลจากขยะแฟชั่น และพรม Econyl ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100%



นอกจากนี้ LOTUS ELETRE ยังติดตั้งระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายขั้นสูง รวมถึงเซ็นเซอร์ 34 ตำแหน่งและชิปเซ็ต NVIDIA Orin-X จำนวน 2 ตัวเพื่อสนับสนุนการขับขี่อัตโนมัติแบบ Level 4 ส่วนฟีเจอร์ Highway Assist ทำให้การขับขี่ทางไกลง่ายดายขึ้น โดยจะช่วยบริหารความเร็วและจัดตำแหน่งรถยนต์ในช่องทางเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วระหว่าง 30-150 กม./ชม. ระบบ Driver Monitoring System จะแจ้งเตือนหากผู้ขับขี่เกิดอาการเหนื่อยล้าหรือเสียสมาธิ ในขณะที่ระบบ Life Detection and Care จะช่วยป้องกันการปล่อยเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถเมื่ออากาศร้อนจัด ไปจนถึงการแจ้งเตือนหน่วยงานฉุกเฉินหากเกิดเหตุจำเป็น



LOTUS ELETRE เปิดรับคำสั่งซื้อแล้วโดย บริษัท เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย มีการนำเข้ามาจำหน่ายรวม 2 รุ่นย่อย มีราคาดังนี้

LOTUS ELETRE S ราคา 5,890,000 บาท
LOTUS ELETRE R ราคา 6,590,000 บาท
รถยนต์ใหม่ 2023 LOTUS ELETRE จะเริ่มส่งมอบให้ผู้สั่งซื้อได้ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2024 เป็นต้นไป



 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Sitemap 1 2 3 4 5 6