เกิดเรื่องใหญ่กับทาง Mazda ในประเทศออสเตรเลีย เมื่อทางศาลรัฐบาลกลางได้ออกคำสั่งให้ทางมาสด้า จ่ายเงินเสียค่าปรับเป็นจำนวน 11.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 270 ล้านบาท จากข้อหาที่บอกว่า “กระทำผิดหรือทำให้เข้าใจผิด” แก่ลูกค้าจำนวน 9 ราย
คณะกรรมการการแข่งขันและผู้บริโภคแห่งออสเตรเลีย (ACCC) ได้ดำเนินคดีกับ Mazda ในประเทศออสเตรเลีย โดยมีการกล่าวหาว่า “มีพฤติกรรมที่ไร้เหตุผล” และ “กระทำผิดหรือทำให้เข้าใจผิด” แก่ลูกค้ารวม 9 ราย รวมการกระทำผิดรวม 49 ครั้ง ระหว่างปี 2013 - 2017 ซึ่งลูกค้าทั้ง 9 รายนั้น ได้ทำการซื้อรถใหม่จากทางมาสด้า มีทั้ง Mazda 2, Mazda 6, Mazda CX-3, Mazda CX-5 และ Mazda BT-50 แล้วพบปัญหาการใช้งาน แต่เมื่อมีการซ่อมไปแล้วปัญหายังไม่หมดไป โดยมีรายหนึ่งมีการเปลี่ยนเครื่องยนต์รวมแล้ว 3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่หาย จึงได้มีการขอเปลี่ยนรถยนต์ใหม่หรือไม่ก็ขอเงินคืน แต่ทางมาสด้า ออสเตรเลียกลับเพิกเฉยหรือปฏิเสธคำขอของลูกค้าทั้ง 9 ราย เลยทำให้มีการฟ้องร้องในเวลาต่อมาโดยทางผู้ได้รับความเสียหาย
หลังจากพิจารณาแล้ว ศาลรัฐบาลกลางในออสเตรเลียพบว่ามีความผิดจริง ออกคำสั่งให้ Mazda จ่ายค่าปรับแก่รัฐบาลเป็นจำนวนเงิน 11.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 270 ล้านบาท และต้องจ่ายเงินชดเชยแก่ลูกค้าทั้ง 9 รายรวม 82,291 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 1.93 ล้านบาท โดยมีรายหนึ่งได้เงินไปสูงสุดที่ 27,650 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 647,000 บาท นอกจากนี้ ทางมาสด้าเองก็เต็มใจที่จะชดเชยเพิ่มเติมให้กับลูกค้าทุกคนในการฟ้องร้องครั้งนี้อีกรายละ 3,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 70,000 บาทอีกด้วย