กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 10
21


LOTUS CARS THAILAND (โลตัส คาร์ ไทยแลนด์) ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายสปอร์ตคาร์สัญชาติอังกฤษ ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย เดินหน้าปรากฏการณ์สุดยิ่งใหญ่สะเทือนวงการรถสปอร์ตหรูเมืองไทย กับการเผยโฉม “LOTUS EMEYA (โลตัส อี-เม-ย่า)” เป็นครั้งแรก! ใน South East Asia และเป็นประเทศที่ 2 ในเอเชียแปซิฟิก



ในฐานะรถสปอร์ตซีดานไฟฟ้าล้วน 100%  Hyper-GT 4 Door with Dual-Motor ที่เร็วที่สุดในโลก เร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 2.78 วินาที ยกระดับมาตรฐานใหม่ในรถไฟฟ้าซีดานรุ่นแรกของแบรนด์ ที่สะท้อน DNA ของ LOTUS อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมยกทัพสุดยอดยนตกรรมสปอร์ตหรู 2 รุ่น Flagship อย่าง  “LOTUS ELETRE” และ “LOTUS EMIRA” มาให้สัมผัสประสบการณ์ความพรีเมียม พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย ภายในงาน Bangkok International Motor Show 2024 ครั้งที่ 45 ณ บูธ LOTUS CAR หมายเลข A25 ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2567 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคารชาเลนเจอร์ 1-3

นายธีรพงศ์ รอดลอย ผู้จัดการส่วนภูมิภาค เวิร์นส์ ออโทโมทีฟ ประเทศไทย เผยว่า “หลังจากที่เราได้เปิดตัว LOTUS ELETRE” (โลตัส อี-เลท-ทร้า) ไฮเปอร์ เอสยูวี รถไฟฟ้า 100% ไปถึง 2 รุ่นย่อยในปีที่แล้ว ได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างมากในประเทศไทยด้วยฟังก์ชันและสมรรถนะการขับขี่ระดับเวิลด์คลาส พร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นโฉบเฉี่ยว ทำให้สามารถดันยอดขายเกินเป้ากว่า 180 คัน ในปี 2566 โดยในไตรมาสสองของปี 2567 เราจะส่งมอบรถได้ตรงตามกำหนดมากกว่า 100 คัน และยังมีออเดอร์จองสะสมเข้ามาต่อเนื่องซึ่งคาดว่าจะส่งมอบได้ในช่วงสิ้นปีอีกกว่า 80 คัน   ส่วนสำหรับในปี 2567 นี้ ได้ตั้งเป้าไว้ที่ 250 คัน



ซึ่งในปีนี้โลตัส คาร์ ไทยแลนด์ ได้เดินแผนรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ด้วยแนวโน้มตลาดรถไฟฟ้าที่เติบโตต่อเนื่องในทุก Segment โดยเฉพาะ Premium เนื่องจาก มีผู้เล่นในตลาดมากขึ้น รวมถึงการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งปัจจุบันรถยนต์ BEV ครองตลาดภาพรวมที่ดีขึ้น อาจขยับไปได้ถึง 47% หรือประมาณ 100,000 คัน ขณะที่เทรนด์ของตลาดรถยนต์ BEV ทั้งในไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มขยายตัว โดยคาดว่าในปีนี้ยอดขายของรถยนต์ BEV จะพุ่งแตะถึงหลัก 100,000 คัน ขณะที่เดือนมกรา 67 เดือนเดียวยอดขายรถยนต์ BEV ทั่วโลกมากถึง 1 ล้านคัน”



“นับเป็นโอกาสสำคัญที่แบรนด์จะเข้ามาทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมเต็มตัวในปี 2567 กับในงาน Motor Show 2024 กับ การเปิดตัว  “LOTUS EMEYA (โลตัส อี-เม-ย่า)” อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทยและ South East Asia และเป็นประเทศที่ 2 ในเอเชียแปซิฟิก ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ในตลาดรถสปอร์ตหรูด้วยมาตรฐานที่มีความแตกต่างตามแบบฉบับของ โลตัส คาร์ ด้วย Driving Dynamics ที่มาจาก DNA ของแบรนด์ และเพื่อเป็นการย้ำทิศทางของแบรนด์ในการเดินหน้ารุกตลาดรถไฟฟ้ากลุ่ม Premium อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยไฮไลต์ที่น่าสนใจของ LOTUS EMEYA ซึ่งถือเป็นรถสปอร์ตซีดานไฟฟ้าล้วน 100% Hyper-GT with Dual-Motor ที่เร็วที่สุดในโลก เพื่อตอกย้ำทิศทางของแบรนด์ความเป็นที่สุดแห่งยนตรกรรมสปอร์ต ผู้นำแห่งการออกแบบยานยนต์ไฟฟ้าตามหลัก Aerodynamic ที่ได้ออกแบบการกระจายกำลังรถให้เท่ากัน 50:50 ทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้อย่างดีเยี่ยม เพื่อให้เกิดความสมดุลในการทรงตัวที่ดีขณะขับขี่และการเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานใหม่ในรถไฟฟ้าซีดานรุ่นแรกของแบรนด์ พร้อมต่อยอดความเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ Lotus โดยนำเทคโนโลยีจากสนามสู่ถนน ด้วยระบบ DRS ช่วยจัดระบบไหลเวียนอากาศได้อย่างดี ตอบสนองการขับขี่ที่โฉบเฉี่ยว สปอร์ต เหมือนรถในสนามแข่ง F1  พร้อมทำลายสถิติใหม่กับอัตราการเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ใน 2.78 วินาที พร้อมจัดเต็มด้วยพละกำลังสูงสุด 905 แรงม้า ซึ่งถือเป็นรถที่แรงที่สุดในกลุ่มตลาดรถ EV ที่น่าจับตามองในตอนนี้ โดย EMEYA S ราคา 5,990,000 บาท และ EMEYA R ราคา 6,890,000 บาท พร้อมเปิดจองเป็นเจ้าของในงานได้ทันที และคาดการณ์ส่งมอบรถในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2024 เป็นต้นไป



“LOTUS EMEYA (โลตัส อี-เม-ย่า)” สปอร์ตซีดานไฟฟ้า 100% Hyper-GT Dual-Motor ที่เร็วที่สุดในโลก ได้รับสมญานามในฐานะ "The World’s Fastest Electric Hyper-GT with Dual-Motor" ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่น LOTUS CARLTON รถซีดานแห่งยุค 90 ที่มีพลังแรงสูงเทียบชั้นรถสปอร์ต ถือได้ว่าเป็นการก้าวข้ามขีดจำกัดของการออกแบบและการขับขี่ที่ยังคงรักษาคาแรกเตอร์ความเป็นรถสปอร์ตมาโดยตลอด สะท้อน DNA ของแบรนด์ Lotus Cars ที่สะสมประสบการณ์และมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานกว่า 75 ปี โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่มีรูปทรงเฉียบคม มีความโฉบเฉี่ยว ตามแบบฉบับรถสปอร์ต

มาพร้อมกระจังหน้าแบบ Active รูปทรงสามเหลี่ยมเป็นช่องดักอากาศ และ Splitter สร้างแรงกดด้านหน้าของรถ เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนให้กับรถได้ดียิ่งขึ้นเมื่ออยู่ช่วงความเร็วสูง อีกทั้งจุดเด่นของฟังก์ชัน Active Spoiler ด้านหลังขนาดใหญ่ถึง 296 มิลลิเมตร มาในรูปแบบ Dual Layer หรือเรียกว่า Double Wing ช่วยเพิ่มแรงกดถนน (Downforce) ได้มากถึง 215 กิโลกรัม อีกทั้งยังมี Active Rear Diffuser ช่วยลดแรงหมุนของอากาศด้านท้ายรถ และช่วยระบายอากาศใต้ท้องรถให้เร็วขึ้น เพื่อรักษาเสถียรภาพในช่วงความเร็วสูง เพิ่มความคล่องตัวได้ทุกรูปแบบในทุกย่านความเร็ว มาพร้อมกับแรงเสียดทานต่ำเพียง 0.21 Cd. มอบอรรถรสการขับขี่อย่างเหนือระดับทุกวินาที โดดเด่นด้วยอัตราความเร็วเหนือความคาดหมายจาก 0-100 km/h ใน 2.78 วินาที รวมทั้งการวางแบตเตอรี่ให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ซึ่งทำงานร่วม Anti-roll Control ช่วยรักษาสมดุลในช่วงความเร็วขณะเลี้ยวโค้ง พร้อมช่วงล่างถุงลมเป็นระบบกันสะเทือนแบบ Active ล้อ Forged น้ำหนักเบา ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่อย่างสมบูรณ์แบบ

มาพร้อมกับเทคโลยีจาก NVIDIA ขุมพลังการประมวลผลอัจฉริยะด้วยชิป Dual NVIDIA DRIVE Orin systems-on-a-chip (SoCs) ในการประมวลผลข้อมูลระบบ พร้อมรองรับ Autonomous Driving  สูงสุดถึง Level 4 ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยโปรเซสเซอร์ Snapdragon 8155 ล่าสุดของ Qualcomm และซอฟต์แวร์ Unreal Engine 6 ยกระดับความปลอดภัยด้วยเซ็นเซอร์รอบคันที่ล้ำสมัย 34 ตัว สูงสุด 30 ครั้งต่อวินาที เพื่อให้การรับรู้แบบ 360 องศาได้อย่างครอบคลุม โดยการสแกนหาสิ่งกีดขวางในรัศมีสูงสุด 200 ม. รอบรถ เพื่อสร้างความมั่นใจในทุกสภาพการขับขี่ พร้อมชุดไฟส่องสว่างแบบ Matrix LED ที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ สามารถปรับตามสภาพการขับขี่อัตโนมัติ เพื่อให้ความสว่างสูงสุดอย่างต่อเนื่องโดยไม่ส่งผลกระทบกับรถที่วิ่งสวนมา พร้อมสมรรถนะมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ระบบ Dual Motors ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD จัดเต็มด้วยพละกำลังสูงสุด 905 แรงม้า แรงบิด 985 นิวตันเมตร ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และระยะทางวิ่งไกล 610 km. ต่อการชาร์จ ตามมาตรฐาน WLTP และใช้เวลาเพียง 18 นาที ในการชาร์ตช่วง 10-80% ด้วยความจุแบตเตอรี่ขนาด 102 kWh. Lithium-ION รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 350 kW รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 22 kW รองรับการเดินทางไกลได้ด้วยรูปแบบ Grand Tourer และตอบโจทย์การขับขี่ในเมือง และมีการออกแบบภายในที่หรูหรา มีระบบ Infotainment Hyper-OS แสดงผลผ่าน Head up Display และจอ OLED สร้างบรรยากาศการเดินทางภายในรถด้วยเครื่องเสียงจาก KEF รองรับระบบ Dolby Atmos อีกด้วย



พบสุดยอดรถหรูสมรรถนะสูง 2 รุ่นเรือธง “Lotus ELETRE” และ “Lotus Emira”

Lotus ELETRE” (โลตัส อี-เลท-ทร้า) ไฮเปอร์ เอสยูวี รถไฟฟ้า 100% ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามจากการเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ถือเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สร้างการยอมรับยนตรกรรมสปอร์ต ที่ตอบโจทย์การขับขี่ได้ทุกรูปแบบ ด้วยพื้นที่ภายในกว้างขวาง รองรับการใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ นำมาจัดแสดงทั้ง 2 รุ่นย่อย ได้แก่

·      Lotus Eletre S ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 603 แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 710 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม.ต่อชม. ใช้ระยะเวลา 4.5 วินาที ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ(AWD) ความจุแบตเตอรี่ขนาด 112 kWh สามารถวิ่งได้ระยะทาง 600 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) ราคา 5.89 ล้านบาท

·      Lotus Eletre R ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 905 แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 985 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม.ต่อชม. ใช้ระยะเวลา 2.95 วินาที ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) ความจุแบตเตอรี่ขนาด 112 kWh สามารถวิ่งได้ระยะทาง 490 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) ราคา 6.59 ล้านบาท

Lotus Emira (โลตัส อี-มี-ร่า) รถสปอร์ตระดับตำนานที่ถือเป็นรุ่นชูโรงของแบรนด์ ถือเป็นเครื่องยนต์สันดาปรุ่นสุดท้าย ที่มาพร้อมการออกแบบที่โฉบเฉี่ยวดุดันในเซ็กเมนต์รถสปอร์ต ผสานเส้นสายที่คมชัด การออกแบบที่ลื่นไหล และยังคงรักษา DNA ของ LOTUS เข้าไว้ด้วยกัน ออกแบบภายใต้หลักอากาศพลศาสตร์ น้ำหนักเบา ช่วงล่างสปอร์ต หรูหรา ไม่เหมือนใคร มาพร้อมแรงขับเคลื่อนที่เร้าใจ เพื่อได้สัมผัสประสบการที่แตกต่างไม่เหมือนใคร โดยมีทั้งหมด 2 รุ่น คือ

·      Emira 2.0 First Edition มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ TURBOCHARGED INLINE 4 พร้อมทำความเร็วได้สูงสุด 275 กม./ชม. พร้อมพุ่งทะยานได้สูงด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 4.3 วินาทีเท่านั้น ทำให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์จากสนามแข่ง ถ่ายทอดสู่ท้องถนน ตามแบบฉบับ DNA ของ LOTUS ในราคา 9.99 ล้านบาท +

·     Emira V6 First Edition ขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปรุ่นสุดท้ายของโลตัส คาร์ ที่มาพร้อมการออกแบบที่ล้ำยุค โฉบเฉี่ยวดุดันในเซ็กเมนต์รถสปอร์ต Lotus Emira เป็นซูเปอร์คาร์ขนาดเล็กที่มาพร้อมความเร้าใจและคุณลักษณะที่พบได้ในรถยนต์ Lotus ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V6 SUPERCHARGE ขนาด 35 ลิตร ผสมผสานกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้พละกำลังสูงถึง 400 แรงม้า และแรงบิด 420 นิวต้นเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 4.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 290 กม./ชม. ในราคา 12.9 ล้านบาท +

พบกับที่สุดของความสมบูรณ์แบบกับยนตรกรรมสปอร์ตคาร์สัญชาติอังกฤษทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Emeya, Eletre และ Emira ที่พร้อมให้จับจองและเป็นเจ้าของได้ทันที ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ภายใน บูธ LOTUS CAR หมายเลข A25 ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2567 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคารชาเลนเจอร์ 1
22
Motor Zone / ลดอีกแล้ว…BYD รุ่นปี 2023 ประกาศลดราคาลงอีกทุกรุ่น
« กระทู้ล่าสุด โดย Hugball เมื่อ 31-03-24, 07:47:21 pm »


เรเว่ ออโตโมทีฟ ประกาศโละรถรุ่นปี 2023 ลงทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น BYD Dolphin, BYD ATTO 3 และ BYD Seal โดยราคาเริ่มต่้นเหลือเพียงแค่ 659,900 บาทเท่านั้น



โดยภายในงาน Motor Show 2024 ทาง เรเว่ ออโตโมทีฟ ในฐานะผู้จำหน่ายรถไฟฟ้า BYD อย่างเป็นทางการ ได้ประกาศลดราคาเป็นโปรโมลั่นพิเศษ ในรุ่นรถที่เป็น Model Year 2023 ทุกรุ่น เริ่มจาก



BYD ATTO 3 Standard รุ่นปี 2023 รับส่วนลดเงินสด 200,000 บาท เหลือเพียง 899,900 บาท (จากราคาปกติ 1,099,900 บาท) พร้อมสิทธิพิเศษ RÊVER มูลค่ารวมกว่า 400,000 บาท



BYD ATTO 3 Extended รุ่นปี 2023 รับส่วนลดเงินสด 250,000 บาท เหลือเพียง 949,900 บาท (จากราคาปกติ 1,199,900 บาท) พร้อมสิทธิพิเศษ RÊVER มูลค่ารวมกว่า 450,000 บาท
ทั้งนี้ จะมีจำนวนจำกัดเพียง 1,175 คันเท่านั้น



BYD DOLPHIN รุ่น Standard รับส่วนลดเงินสด 40,099 บาท เหลือเพียง 659,900 บาท (จากราคาปกติ 699,999 บาท) พร้อมสิทธิพิเศษ RÊVER มูลค่ารวมกว่า 205,000 บาท และมีจำนวนจำกัดเพียง 1,549 คันเท่านั้น

BYD

เท่านั้นยังไม่พอ รถไฟฟ้าตัวแรง BYD Seal ก็ยังมีการลดราคาด้วยเช่นกัน เริ่มจาก BYD SEAL รุ่น Dynamic รับส่วนลดเงินสด 126,000 บาท เหลือเพียง 1,199,000 บาท (จากราคาปกติ 1,325,999 บาท) พร้อมสิทธิพิเศษ RÊVER มูลค่ารวมกว่า 361,000 บาท



BYD SEAL รุ่น Premium รับส่วนลดเงินสด 50,000 บาท เหลือเพียง 1,399,000 บาท (จากราคาปกติ 1,449,000 บาท) พร้อมสิทธิพิเศษ RÊVER มูลค่ารวมกว่า 285,000 บาท



BYD SEAL รุ่น Performance รับส่วนลดเงินสด 100,000 บาท เหลือเพียง 1,499,000 บาท (จากราคาปกติ 1,599,000 บาท) พร้อมสิทธิพิเศษ RÊVER มูลค่ารวมกว่า 335,000 บาท

https://cf.autodeft2.pw/content/20240327/10-byd-motor-show-campaign-mT0zTg.jpg

โปรโมชั่นนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2567 – 30 เมษายน พ.ศ. 2567 ส่วนใครที่เพิ่งถอยรถป้ายแดง BYD Seal ทุกรุ่นย่อยไป ไม่ต้องเสียใจ เพราะโปรโมชั่นนี้ จะมีผลย้อนหลังให้จนถึงวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567
23
Sexy Room / (รูปภาพ เซ็กซี่ 18+) • ป็อบ •
« กระทู้ล่าสุด โดย Hugball เมื่อ 31-03-24, 07:44:15 pm »













Model : She Poppy
Photographer : Varayut.Ch
24
Sexy Room / (รูปภาพ เซ็กซี่ 18+) • Patchar •
« กระทู้ล่าสุด โดย Hugball เมื่อ 31-03-24, 07:40:17 pm »











Model : Patchar Sorn-in
Photographer : Varayut.Ch
25
Sexy Room / (รูปภาพ เซ็กซี่ 18+) • เนย •
« กระทู้ล่าสุด โดย Hugball เมื่อ 31-03-24, 07:34:10 pm »











Model : Noey Parita Butter
Photographer : Jit Nakrungsu
26
Sexy Room / (รูปภาพ เซ็กซี่ 18+) • ฟาต๊ะ•
« กระทู้ล่าสุด โดย Hugball เมื่อ 31-03-24, 07:25:44 pm »










Model : Ratiporn Sukwibool
Photographer : Psk Photott
27


รถไฟฟ้ารถใหม่ Hyundai Ioniq 5 N จะมาถึงตัวแทนจำหน่ายในสหรัฐฯ เร็ว ๆ นี้ กับราคาค่าตัวเริ่ม 66,100 ดอลลาร์ หรือราว 2.361 ล้านบาท นับเป็นรถฮุนไดที่มีราคาแพงที่สุดในอเมริกา



สำหรับรถไฟฟ้าตัวแรง Hyundai Ioniq 5 N นี้ โดดเด่นมาด้วยสไตล์มีแผงด้านหน้าที่ดุดัน เสริมสปลิตเตอร์หน้า สเกิร์ตข้างแอโรไดนามิก และแถบเน้นสีส้ม Luminous Orange มีสปอยเลอร์ ไฟเบรกดวงที่สามทรงสามเหลี่ยม ตัวรถที่เตี้ยกว่า กว้างกว่า และยาวกว่ารถรุ่นทั่วไป มีดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ ล้ออะลูมิเนียมฟอร์จขนาด 21 นิ้ว รัดด้วยยาง Pirelli P Zero ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP



ขุมพลังดุดันด้วยมอเตอร์คู่ขับสี่ ให้กำลัง 601 แรงม้า (448 กิโลวัตต์ / 609 แรงม้า) มีฟังก์ชัน N Grin Boost จะเพิ่มกำลังเป็น 641 แรงม้า (478 กิโลวัตต์ / 650 PS) ทำความเร็วสูงสุดที่จำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ 162 ไมล์ต่อชั่วโมง (261 กม./ชม.)
28


รถใหม่รถไฟฟ้า "Volvo EX30" ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา ล่าสุดเริ่มส่งมอบแก่ลูกค้ากลุ่มแรกแล้วในปี 2024 นี้ ทั้งนี้ทีมงานพร้อมพาเพื่อน ๆ ไปชมการขับทดสอบบนถนนทั้งรุ่น Volvo EX30 Ultra - Single Motor Extended Range และ Twin Motor Performance กับราคาค่าตัวเริ่ม 1.79 ล้านบาท และในรุ่นเริ่มต้น Single Motor Extended Range ราคาเริ่มต้นที่ 1,590,000 บาท



29


ล่าสุดทางซูซูกิพร้อมเปิดตัวรถใหม่อย่างเป็นทางการกับ “Suzuki XL7 Hybrid” ที่จะเข้ามาแทนที่ Suzuki XL7 ในปัจจุบันที่เพิ่งได้รับการปรับลดราคาลงถึง 8 หมื่นบาท Suzuki XL7 Hybrid จะมีความเปลี่ยนแปลงและสมรรถนะขุมพลัง Hybrid จะเป็นอย่างไร ชมกันได้เลย

30
Sexy Room / (รูปภาพ เซ็กซี่ 18+) • Pookpik •
« กระทู้ล่าสุด โดย Hugball เมื่อ 23-03-24, 10:34:04 am »









Model : Aareya Laman
Photographer : Takdanai Chalermsin
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 10