ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดราคา GWM TANK 500 DIESEL ดีเซลพรีเมียมในไทย เริ่ม 1,399,000  (อ่าน 23 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Hugball

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7416
  • เพศ: ชาย
    • www.hugball.net


หลังจากที่มีการเผยโฉมพร้อมรายละเอียดสเปกรถใหม่ NEW GWM TANK 500 DIESEL ดีเซลไปแล้วก่อนหน้านี้ และให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับทดสอบกันไปแล้ว ล่าสุดนี้พร้อมแล้วกับการเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย กับราคาค่าตัวพิเศษเริ่ม 1,399,000 บาท 500 คันแรก



รถใหม่ GWM TANK 500 DIESEL ดีเซล ถูกวางตลาดในตำแหน่งของรถ PPV พรีเมียม ที่มากับสมรรถนะทรงพลังของเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)”



ชูไฮไลท์ประสบการณ์การขับขี่อัจฉริยะแบบครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่
1.) ความพรีเมียมตั้งแต่ภายนอกสู่ภายใน
2.) ความสบายเหนือระดับด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมาย
3.) เทคโนโลยีอัจฉริยะอันล้ำสมัย
4.) ความปลอดภัยที่อัดแน่นสร้างความมั่นใจให้ในทุกเส้นทาง

ทั้งหมดนี้เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทาง ทั้งเพื่อธุรกิจ การเดินทางกับครอบครัว หรือทริปผจญภัย



ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ ได้ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย มากับเทอร์โบแปรผัน (VGT), หัวฉีดแรงดันสูง 2,000 บาร์, ระบบ EGR อิเล็กทรอนิกส์ และเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ที่เปลี่ยนเกียร์สูงได้แม้ในความเร็วต่ำ ผลลัพธ์คือการส่งกำลังที่ลื่นไหล ตอบสนองทันใจ พร้อมให้กำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ที่มาในรอบต่ำเพียง 1,500–2,500 รอบ/นาที ขับขี่คล่องตัวทั้งในเมือง นุ่มนวลเมื่อเร่งแซง และมั่นคงบนทางไกล

มีมิติตัวถังขนาดใหญ่ กว้าง 1,934 มม. ยาว 4,886 มม. สูง 1,905 มม. และระยะฐานล้อ 2,850 มม. ในรุ่น 2.4T PRO มาพร้อมล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว จับคู่กับยาง Westlake ขนาด 265/60 R18 พร้อมยางอะไหล่ ขณะที่รุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD ล้ออัลลอยสีดำขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง Continental ขนาด 265/50 R20 และยางอะไหล่



ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีดำสุดหรู และหนัง Nappa ที่ให้สัมผัสนุ่มนวลและหรูหรา มีจอ 14.6 นิ้ว Touch screen infotainment ขนาดใหญ่ก็ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถควบคุมทุกฟังก์ชันได้อย่างง่ายดายและทันสมัย ติดตั้ง Multi-color ambient lighting ช่วยเพิ่มบรรยากาศภายในห้อง สามารถปรับเปลี่ยนสีแสงได้ตามความต้องการ ระบบเสียงระดับพรีเมียมจากลำโพง 12 ตัว พร้อมระบบ Surround sound ให้ได้สัมผัสประสบการณ์เสียงที่ลึกซึ้งและชัดเจนที่สุด พร้อมการป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกด้วยกระจกสองชั้นแบบ Double Layer Laminated Glass ที่ทำให้การเดินทางเงียบสงบไร้กังวล นอกจากนี้ ระบบ Active Noise Cancellation (ANC) ยังช่วยลดเสียงรบกวนเพิ่มเติม เพื่อให้ทุกการเดินทางเป็นประสบการณ์ที่เหนือระดับ

ในรุ่น 2.4T ULTRA และ ULTRA 4WD มากับเบาะที่นั่งที่ปรับไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง พร้อมระบบ Welcome Seat, Massage Seat และ VIP Switch ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการปรับเบาะให้เหมาะสมตามสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และระบบเบาะระบายอากาศทั้งในที่นั่งแถว 1 และแถว 2 (เฉพาะรุ่น ULTRA 4WD)



ห้องโดยสารกว้างขวางยิ่งขึ้นด้วยระยะฐานล้อที่ยาวถึง 2,850 มม. และ พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ 795 ลิตร ทำให้สามารถจัดเก็บสัมภาระได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไกลหรือท่องเที่ยว พร้อมด้วย ซันรูฟพาโนรามา ที่ช่วยเติมเต็มความโปร่งสบายให้ห้องโดยสาร นอกจากนี้ เทคโนโลยีความบันเทิงภายในรถได้รับการออกแบบให้ทันสมัยด้วยหน้าจอสัมผัสที่รองรับมัลติมีเดียได้อย่างครบครัน พร้อมระบบเสียงรอบทิศทางที่มีลำโพงถึง 12 ตำแหน่ง (รุ่น PRO 8 ตำแหน่ง)

ห้องโดยสารยังมีระบบปรับอากาศด้านหน้าแบบแยกอิสระซ้าย-ขวา และระบบปรับอากาศด้านหลัง พร้อมด้วยระบบกรองอากาศ N95 และ ระบบ ionizer ที่ช่วยฟอกอากาศและสร้างบรรยากาศที่สดชื่นภายในรถ เพิ่มความสะดวกสบายอีกระดับด้วยม่านบังแดดสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง



หน้าจอแสดงผลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และ หน้าจอสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว ที่รองรับระบบ Smart Dual Screen Interaction มี Windshield Head-Up Display ที่แสดงข้อมูลการขับขี่บนหน้ากระจกเพื่อให้การขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น มี Wireless Charging ขนาด 50 วัตต์ ที่ด้านหน้า และระบบกล้องแสดงภาพ 540 องศา (กล้อง 360 องศา และระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ)

ระบบการควบคุมรถจากทางไกลผ่านแอปพลิเคชัน GWM และระบบสั่งงานด้วยเสียง ช่วยให้การควบคุมรถง่ายและทันสมัย สำหรับรุ่น 2.4T PRO และ ULTRA มาพร้อม 3 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดประหยัด สำหรับรุ่น 2.4T ULTRA 4WD มีโหมดการขับขี่ทั้งหมด 8 โหมด ได้แก่ โหมด 2H 4H 4L โหมดพื้นหิมะ โหมดพื้นโคลน โหมดพื้นทราย โหมดพื้นหิน และโหมดผู้เชี่ยวชาญ พร้อมฟีเจอร์ออฟโรดสุดล้ำ เช่น Tank Turn ที่ช่วยให้การกลับรถในที่แคบเป็นเรื่องง่าย, Off-road Cruise Control, และ ระบบล็อกเฟืองหน้า-หลัง ให้คุณมั่นใจในทุกเส้นทาง สำหรับการจอดรถ NEW GWM TANK 500 DIESELรุ่น ULTRA และ ULTRA 4WD ยังมีระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบอีกด้วย



ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุด เอกสิทธิ์เดียวจาก GWM ที่มาพร้อม 4 จุดเด่น

แรง ประหยัด คุ้มค่า: ขุมพลัง 2.4T พร้อมเทอร์โบแปรผัน VGT และหัวฉีดแรงดันสูง 2,000 บาร์ ให้การเผาไหม้สมบูรณ์ ลดไอเสีย ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น
นิ่ง เงียบ นุ่มนวล: เทคโนโลยี NVH ลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนได้อย่างยอดเยี่ยม มีระดับเสียงในห้องเครื่องที่ idle time ต่ำกว่า 68 เดซิเบล
ตอบสนองฉับไว: กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำ ขับขี่คล่องตัวในเมือง และมั่นใจทุกเส้นทาง
ทนทาน มั่นใจ: ผ่านการทดสอบสมรรถนะกว่า 6 ล้านกิโลเมตรทั่วโลก รับประกันเครื่องยนต์นานถึง 1 ล้านกิโลเมตร หรือ 8 ปี
ด้านความปลอดภัยมาพร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขี่ระดับ L2+ ที่รวมระบบ ACC, Lane Change Assist, Forward Collision Warning, Lane Keeping Assist, และ Intelligent Cruise Assist/Traffic Jam Assist ช่วยให้การขับขี่ในเมือง, ทางด่วน, และการจราจรติดขัดเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเสริมด้วยระบบเตือนการชนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ RCTA + RCTB, MEB, กล้องรอบคัน 540 องศา, และเซนเซอร์ 12 จุด เพื่อเพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่ ด้านโครงสร้างตัวถังของ NEW GWM TANK 500 DIESEL ถูกออกแบบให้แข็งแกร่งและทนทาน สามารถทนต่อแรงยุบ แรงชน แรงบิด และแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยตัวถัง Cage-Type ผลิตจากเหล็กกล้าแรงดึงสูงพิเศษ รองรับแรงกดหลังคาได้ถึง 96.58 กิโลนิวตัน และแรงบิดสูงสุด 23,076 นิวตันเมตร พร้อมระบบปลดล็อกอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และฟีเจอร์อื่น ๆ ที่มอบความปลอดภัยแบบครบวงจร



พิเศษแตกต่างดุดันด้วย “สีดำ (Black Warrior)” ที่มีให้เลือกเฉพาะใน NEW GWM TANK 500 DIESEL รุ่น 2.4T ULTRA และรุ่น 2.4T ULTRA 4WD ความหล่อเข้ม  ลึกลับ สง่างาม และทรงพลังได้อย่างมีเอกลักษณ์ ผ่านดีไซน์ภายนอกสีดำเงาเข้มขรึม กระจังหน้าสีดำพิเศษ ผสานกับล้ออัลลอยสีดำ และห้องโดยสารภายในโทนสีดำที่สะท้อนความพรีเมียมและความดุดันในทุกมุมมอง ความโดดเด่นของสีดำ (Black Warrior)

มีตัวเลือกสีภายนอก 3 สี ได้แก่ สีขาว, สีดำ, สีเทา และรุ่นตกแต่งพิเศษ Black Warrior (เฉพาะรุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD)

NEW GWM TANK 500 DIESEL นำเสนอมาด้วย  3 รุ่นย่อย ได้แก่

ราคาพิเศษสำหรับ 500 คันแรก
- รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T PRO ราคา 1,399,000 บาท
- รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T ULTRA* ราคา 1,499,000 บาท
- รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T ULTRA 4WD* ราคา 1,599,000 บาท
(*ทั้ง ULTRA และ ULTRA 4WD มาพร้อมสีพิเศษ Black Warrior) (รุ่นตกแต่งพิเศษ Black Warrior +30,000 บาท)

ราคาจำหน่ายปกติ
- รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T PRO ราคา 1,449,000 บาท
- รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T ULTRA* ราคา 1,599,000 บาท
- รุ่น NEW GWM TANK 500 DIESEL 2.4T ULTRA 4WD* ราคา 1,699,000 บาท
(*ทั้ง ULTRA และ ULTRA 4WD มาพร้อมสีพิเศษ Black Warrior)



 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Sitemap 1 2 3 4 5 6