ผู้เขียน หัวข้อ: สัมผัส New Honda Jazz มาดใหม่ เพิ่มเติมความสปอร์ต หล่อครบจากโรงงาน  (อ่าน 2056 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Hugball

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7054
  • เพศ: ชาย
    • www.hugball.net
รถยนต์ Hatchback ยอดนิยมของคนไทย หนึ่งในนั้นจะต้องมี Honda Jazz อยู่เป็นแน่ ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ที่น่ารักตอบโจทย์ความอเนกประสงค์ด้วยขนาดตัวรถที่กะทัดรัด ซึ่ง Honda Jazz รุ่นแรกที่ทำตลาดในบ้านเรามาตั้งแต่ช่วงเกือบ 15 ปีที่แล้ว จนล่าสุดกับเจเนอเรชั่นที่ 3 ที่เพิ่งได้รับการปรับโฉมไปเมื่อเร็วๆ นี้ ในปี 2017 กับมาดใหม่ทั้งด้านหน้าและหลัง รวมไปถึงรุ่นสปอร์ต RS เอาใจคนที่ชื่นชอบการแต่งรถหล่อครบจากโรงงาน ที่ทีมงานพร้อมไปสัมผัสกันแล้วในครั้งนี้

อีกหนึ่งโอกาสอันดีที่ทาง ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จํากัด ได้เชิญทีมงาน Autodeft.com ร่วมสัมผัสรถยนต์ New Honda Jazz ใหม่ กับเส้นทางย่านใจกลางเมืองและชานเมืองกันตลอดทั้งวัน ตั้งแต่โซนสุขุมวิท ราชพฤกษ์ บางใหญ่ ตากสิน ทำให้ทีมงานได้ขับขี่กันในสภาพถนนจริง การจราจรจริง ของชีวิตคนเมืองที่ต้องขับขี่รถยนต์ โดยอาจจะมีบ้านอยู่ชานเมือง เช้าต้องขับฝ่ารถติดเข้ามาทำงานในย่านตัวเมืองที่การจราจรหนาแน่น ซึ่งต้องบอกเลยว่า New Honda Jazz ใหม่ ยังคงให้ความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองที่เราอาจจะต้องมีการขับเปลี่ยนเลนไปมาอยู่บ่อยๆ รวมไปถึงการขับขี่ออกไปยังชานเมืองที่ต้องมีการใช้ความเร็วในการเดินทางที่สูงขึ้นกว่าการขับขี่ในเมืองที่ราวๆ 110-120 กม./ชม. และความเร็วยังสามารถไหลขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง











ก่อนที่จะพูดถึงความรู้สึกในการขับขี่สิ่งที่เปลี่ยนไปของรถยนต์ New Honda Jazz ใหม่ ที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนเลยก็คือภายนอกตัวรถ โดยเฉพาะรุ่น RS ที่ทีมงานได้ทดลองขับในครั้งนี้ กระจังหน้าใหม่แบบ Gloss Balck พร้อมคิ้วโครเมี่ยมและสัญลักษณ์ RS ติดตั้งที่กระจังหน้า ไฟหน้า ไฟ daytime ในโคม และไฟตัดหมอกหน้า เป็นแบบ LED กันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่แบบสปอร์ต ที่ดูแล้วมีส่วนเว้าส่วนโค้งรวมถึงดีไซน์ที่โดนใจสายแต่งรถไม่น้อย ชายล่างกันชนหน้ามีลักษณะคล้ายลิ้นหน้าเสริมแบบสมัยนิยม ใช้โทนสีดำด้านเพื่อตัดกับสีของตัวรถ โดยเฉพาะสีไฮไลท์ใหม่สีส้มฟีนิกซ์ กันชนหลังถูกดีไซน์ให้มีมิติส่วนนูนส่วนเว้าพร้อมดิฟฟิวเซอร์ท้ายเชื่อมต่อเป็นแนวเดียวกันกับลิ้นกันชนด้านหลัง สปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ ครอบกระจกมองข้างสีดำ และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางรถยนต์ขนาด 185/55 R16 สำหรับรุ่น RS นี้



ภายในยังคงชูเรื่องความสามารถในการพับเบาะได้อย่างหลากหลาย กับเบาะนั่งอัลตร้าซีท ที่สามารถพับและปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ถึง 4 โหมด เบาะถูกหุ้มด้วยผ้าสลับลายและเดินตะเข็บสีส้มอย่างสวยงาม ห้องเก็บสัมภาระท้ายขนาดใหญ่จุได้ 906 ลิตร พร้อมปรับออพชั่นแบบเดียวกับ Honda City ด้วยแผงคอนโซลหน้าดีไซน์เน้นโทนดำเข้มตกแต่งด้วยสีดำ Piano Black พร้อมระบบจอสัมผัสใหม่ขนาด 6.8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่าน HDMI มีลำโพง 6 จุด ระบบปรับอากาศอัตโนมัติสั่งการผ่านระบบสัมผัส พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน แสดงกล้องมองหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ และปุ่ม Push Start ใหม่





ด้านการขับขี่นั้น อัตราเร่งในช่วงต่างๆ ยังคงทำได้ดี ไม่ว่าจะในสถานการณ์ที่รถติดๆ การออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าตัวรถอืดอาดแต่อย่างใด หรือในช่วงที่ต้องการทำความเร็ว สามารถเรียกกำลังของตัวรถมาได้แบบไหลๆ ยาวๆ เลยทีเดียว แต่หากใครที่เท้าหนักกดเต็มคันเร่งกันตั้งแต่ออกตัวอาจจะมีจังหวะหน่วงเล็กน้อยในช่วงต้น จากนั้นความเร็วจะไต่ขึ้นไปแบบดึงต่อเนื่องเลยทีเดียว รวมไปถึงแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ก็ยังช่วยเพิ่มความสนุกในการขับได้ไม่น้อย ซึ่งสามารถใช้งานได้ทันทีในโหมด D และเมื่อขับขี่ในโหมด S รอบเครื่องยนต์ก็จะสูงกว่าปกติ ทำให้การตอบสนองทันใจมากยิ่งขึ้น พวงมาลัยยังคงให้น้ำหนักที่เบา ควบคุมง่าย เบรกที่สามารถกะระยะชะลอหรือหยุดรถได้มั่นใจ และช่วงล่างที่นุ่มนำหนึบ

ซึ่งในส่วนของรายละเอียดด้านเครื่องยนต์ ช่วงล่าง พวงมาลัย รวมไปถึงสมรรถนะในการขับขี่ต่างๆ นั้นยังคงเดิม ขุมพลังยังคงเป็นเครื่องยนต์เดิมขนาด 1.5 ลิตร เบนซิน I-VTEC ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที รองรับ E85 จับคู่เกียร์ธรรมดา 5 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ภายใต้เทคโนโลยี Honda Earth Dream พร้อมระบบ G-Design Shift ช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงยิ่งขึ้น



ส่วนด้านระบบความปลอดภัยยังคงใส่มาให้ครบครันตั้งแต่ระบบเบรก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัว (VSA) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) และ ISOFIX & Child Anchor จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ถุงลมนิรภัยคู่หน้า รวมถึงกล้องมองภาพขณะถอยหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ และพิเศษในรุ่น RS + เพิ่มถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด

รถยนต์ New Honda Jazz ใหม่ ที่เพิ่งปรับโฉมในครั้งนี้ ถูกนำเสนอตัวเลือกใหม่แบบสปอร์ตที่หล่อครบจากโรงงาน ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการรถในลุคแบบสปอร์ต และต้องการความมั่นใจของชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่มาตกแต่ง ฮอนด้าจึงได้ส่งทางเลือกใหม่ในรุ่น RS พร้อมสีสันใหม่ล่าสุด มาตอบโจทย์พร้อมนำเสนอความแตกต่างที่ลูกค้าเลือกได้ เป็นอีกแนวทางในการทำการตลาดจาก Honda สำหรับเจ้า Hatchback ยอดนิยมของคนไทยรุ่นนี้

เรื่องและขับทดสอบโดย รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ (toptaro)



New Honda Jazz มีให้เลือก 6 สี ได้แก่ ขาวทาฟเฟต้า (เฉพาะรุ่น S, V และ V+) สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) *สีดำคริสตัล (มุก) *สีขาวออร์คิด (มุก) (เฉพาะรุ่น RS และ RS+) และสีใหม่ *สีส้มฟีนิกซ์ (มุก) (เฉพาะรุ่น RS และ RS+)

มี 6 รุ่นย่อย พร้อมราคาจำหน่ายดังนี้
- รุ่น RS+ ราคา 754,000 บาท (รุ่นที่ขับทดสอบ)
- รุ่น RS ราคา 739,000 บาท
- รุ่น V+ ราคา 694,000 บาท
- รุ่น V ราคา 654,000 บาท
- รุ่น S AT ราคา 594,000 บาท
- รุ่น S MT ราคา 555,000 บาท



Natthanon1602

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 225

 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Sitemap 1 2 3 4 5 6